ระนอง - ภาคเอกชนระนอง เตรียมเสนอให้จังหวัดระนอง มีพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมปลอดภาษี เพื่อสนับสนุนให้ท่าเรือระนอง เป็นประตูการขนส่งทางทะเลไปยังประเทศอาเซียน และบีมส์เทค
จากการที่จังหวัดระนอง ได้นำคณะหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนจากจังหวัดระนองไปดูงานที่ท่าเรือเชนไน ประเทศอินเดีย และท่าเรือจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานั้น นายนิธิวัฒน์ ธีระนันทกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง และอุปนายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย กล่าวว่า ทางผู้บริหารท่าเรือจิตตะกอง ได้สนใจท่าเรือน้ำลึกที่จังหวัดระนอง กำลังพิจารณาเตรียมทำบันทึกข้อตกลงเพื่อให้เรือสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปใช้บริการท่าเรือจิตตะกอง โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะผู้บริหารท่าเรือจิตตะกอง โดยฝ่ายความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ต้องยอมรับร่วมกัน ทั้งศุลกากร ทหารเรือ กองตรวจคนเข้าเมือง เหมือนกับที่ท่าเรือจิตตะกอง ทำข้อตกลงกับพม่า โดยกำลังอยู่ในระหว่างการขอดูร่างบันทึกข้อตกร่วมกันก่อนที่จะผลักดันผ่านจังหวัดระนองต่อไป
ที่สำคัญคือ อยากให้ท่าเรือน้ำลึกระนองเป็นเขตปลอดภาษี เพราะสินค้าที่นำวัตถุดิบเข้ามาทางเรือ ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป จะติดกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า ต้องชี้แจงสูตรการผลิต หากจังหวัดระนอง มีพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมปลอดภาษีสามารถบอกแหล่งที่มาของสินค้าได้ว่ามาจากที่ใด เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังไม่ถือว่าเข้ามาในประเทศไทย หากบอกที่มาไม่ได้อาจจะถูกตัดสิทธิ GSP จากกลุ่มประเทศอียูได้
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า หากรัฐบาลเห็นความสำคัญของท่าเรือน้ำลึกจังหวัดระนอง เพราะเป็นที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการมาใช้บริการเพื่อให้ระนองเป็นประตูการขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และบีมส์เทค จะทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางภาคใต้จะร่นระยะเวลาในการขนส่งสินค้าได้ ซึ่งก็จะเป็นการลดต้นทุนด้วยทางหนึ่ง เพียงขอขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะให้แก่ท่าเรือน้ำลึก และผู้ประกอบการไทยให้สามารถเตรียมรับการแข่งขันการค้าเสรีก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2558 ที่จะถึงนี้
