พัทลุง - ตำรวจ และทหาร นำหมายค้นบุกทลายคลังอาวุธที่ร้านจำหน่ายอะไหล่ยนต์กลางตลาดป่าพะยอม พบอาวุธสงครามหลายรายการ และยาบ้า เจ้าของอ้างมีไว้ป้องกันตัวหลังถูกเรียกค่าคุ้มครอง ตร.ไม่ปักใจเชื่อ คุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดี
เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (26 พ.ค.) ร.ต.ท.เผด็จ ชูทอง หน.กำลังตำรวจชุดเฉพาะกิจ ผวจ.พัทลุง ชุดเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามอาวุธปืน และอาวุธปืนสงคราม ภ.จว.พัทลุง กำลังชุด ชปส.ภ.จว.พัทลุง และกำลังทหารกองพัน ช.401 ค่ายอภัยบริรักษ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทลุง เลขที่ 469/2557 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เข้าตรวจค้นร้าน ก.เสรีออโตพาร์ท บ้านเลขที่ 365/1 ม.2 ต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องยนต์และอะไหล่เครื่องยนต์ชื่อดังในตลาดป่าพะยอม
เนื่องจากสืบทราบว่า นายสิทธิเสรี ศรีทองหนู อายุ 32 ปี ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติด และมีอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนชนิดต่างๆ ไว้ในความครอบครองเป็นจำนวนมาก โดยเปิดร้านจำหน่ายเครื่องยนต์บังหน้า จากการตรวจค้นพบของกลางที่ซุกซ่อนภายในร้านจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 630 นัด อาวุธปืนยาวขนาด .22 ติดลำกล้อง 1 กระบอก กระสุน 25 นัด อาวุธปืนยาวอัดลม 1 กระบอก กระสุน 20 นัด อาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 48 นัด อาวุธปืนขนาด 11 มม. พร้อมกระสุน 38 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน 15 นัด อาวุธปืน .25 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 12 นัด รวมทั้งซองบรรจุกระสุนปืนหลายรายการ
นอกจากนี้ ยังพบเสื้อเกราะกันกระสุนที่ใช้ในกิจการของตำรวจอีก 1 ตัว อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก ยาบ้า 19 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ในการประกอบอาวุธปืนอีกหลายรายการ ท่ามกลางความแตกตื่นของบรรดาไทยมุงในตลาดป่าพะยอม โดยไม่คาดคิดว่า นายสิทธิเสรี เจ้าของร้านจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และอาวุธปืนสงครามจำนวนมาก
สอบสวน นายสิทธิเสรี ให้การว่า อาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมกระสุนนั้น ได้ซื้อมาจากทหารพรานรายหนึ่งในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ส่วนเสื้อเกราะของตำรวจเจ้าตัวไม่ยอมบอกว่าได้มาอย่างไรและเป็นของใคร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนเคยถูกคนร้ายเรียกค่าคุ้มครองเป็นเงิน 4 แสนบาท แต่ตนไม่มีเงินจ่ายจึงถูกยิงถล่มบ้านเพื่อข่มขู่ จึงได้ชื้ออาวุธปืนมาไว้ป้องกันตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้นำตัวพร้อมของกลางไปส่งให้ ร.ต.ท.ณัฐพร ชัยนุกูล พนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป