หุ้นภาคบ่ายร่วงแรงกว่า 17 จุด คาดปัจจัยหลักจากความกังวลสถานการณ์ทางการเมือง นักลงทุนจึงตัดสินใจที่ขายเพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน อีกทั้งดัชนีฯ ก็ได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้วด้วย ซึ่งทำให้มี upside ไม่มาก โดยก่อนหน้านี้ตลาดปรับตัวขึ้นมาได้ด้วย Flow จากนักลงทุนต่างชาติ แต่มาวันนี้นักลงทุนบางกลุ่มก็มีความไม่มั่นใจ เกรงจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (6 พ.ค.) ดัชนีภาคบ่ายปรับตัวลงหนักกว่า 10 จุด และแกว่งผันผวนในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 16.21 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,406.94 จุด ลดลง 14.54 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,663.91 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 14 จุด โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยการเมืองที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจที่ขายเพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน อีกทั้งดัชนีฯ ก็ได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้วด้วย ซึ่งทำให้มี upside ไม่มาก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตลาดฯ ปรับตัวขึ้นมาได้ด้วย Flow จากนักลงทุนต่างชาติ แต่มาวันนี้นักลงทุนบางกลุ่มก็มีความไม่มั่นใจ เกรงจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดี แต่นักลงทุนอีกกลุ่มก็เห็นว่าใกล้รู้ผลแล้ว และที่ผ่านมาตลาดก็ได้รับรู้ไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงจากการเมือง ซึ่งก็ต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีจากกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อย่างไรบ้าง
สำหรับกรณีที่เกิดระเบิดขึ้นที่หาดใหญ่ มองว่ายังไม่มีน้ำหนักต่อตลาดฯ เท่าไร เนื่องจากหากมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องระเบิดใน 3 จังหวัดภาคใต้ คนต่างก็รับรู้กันมานานมากแล้ว ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ พร้อมให้แนวรับ 1,410-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,435 จุด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.42 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.23% มูลค่าการซื้อขาย 26,994.63 ล้านบาท