นครศรีธรรมราช - แม่ทัพภาคที่ 4 ประณามการกระทำของคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่า น.ส.ศิริพร และชี้ว่าเป็นการก่อเหตุที่ผิดปกติ และโหดเหี้ยมที่ไม่มีใครเขาทำกันของกลุ่มคนร้ายที่เน้นเป้าหมายเป็นผู้หญิง ระบุการโยกย้ายตำแหน่งแม่ทัพว่า หากมีการปรับย้าย อยากฝากการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ คือทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการทำงาน การแก้ปัญหาร่วมกัน และเป็นปีแห่งการบูรณาการความคืบหน้า ตนไม่อยากจะให้ทิ้งประเด็นนี้ไป
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกรณีที่คนร้ายก่อเหตุยิง และเผาครูศิริพร ว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่ายังคงมีกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ที่ยังคงต้องการสร้างความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีการก่อเหตุที่โหดร้ายต่อผู้หญิง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มอาชญากรกลุ่มเดิม และกลุ่มเดียวที่เคยก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มอาชญากรที่มีความผิดปกติ เพราะพฤติกรรมค่อนข้างจะโหดเหี้ยม ไม่มีใครยอมรับได้ว่าเป็นเรื่องที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน โดยเจ้าหน้าที่จะมีการเร่งตรวจสอบสาเหตุอยู่
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กล่าวถึงกระแสการโยกย้ายตำแหน่งแม่ทัพว่า ตนไม่มีปัญหาเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาส่วนหากมีการปรับย้ายสิ่งที่อยากจะฝากในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ก็คือ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันอย่างปีที่ผ่านมา ผบ.ทบ.ได้มีการประสานการทำงานโดยนำ ศอ.บต., กอ.รมน.และทุกกระทรวงทบวงกรมมาร่วมกันแก้ปัญหา และปีนี้ก็จะเป็นปีแห่งการบูรณาการความคืบหน้า ตนไม่อยากจะให้ทิ้งประเด็นนี้ไป
แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงการตั้งโต๊ะเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า จะมีการดำเนินการต่อไปหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับระดับรัฐบาลตัดสินใจ ส่วนข้อดีของการเจรจาก็คือ การที่เราได้เห็นหน้าเห็นตาของคู่กรณี และจะได้รู้ว่าใครเป็นผู้ที่มีเจตนาที่แท้จริงในการดูแลประชาชน ส่วนการเจรจาจะได้ผลหรือไม่นั้น คงไม่สามารถชี้ชัดได้ในระยะแรกๆ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
ต่อข้อคำถามในการเปลี่ยนแปลงเลขาธิการ สมช. พล.ท.สกล ระบุว่าไม่เป็นปัญหาสืบเนื่องจากความต้องการเจรจาสันติภาพเป็นความต้องการอยู่แล้ว ประชาชนในพื้นที่ต้องการความสงบสุขจึงไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ
ด้านการแก้ปัญหาภัยแล้ง แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่าได้มีการสั่งให้กำลังพลจัดเตรียมอุปกรณ์ยวดยานพาหนะให้พร้อมเพื่อช่วยเหลือประชาชนเมื่อร้องขอมา และสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ก็ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะหากใน 2-3 อาทิตย์นี้ฝนไม่ตกลงมาก็จะมีสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน