“สมชัย” ระบุหากการเลือกตั้งทดแทนช่วง เม.ย.เรียบร้อย เปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกได้ปลาย พ.ค. มีรัฐบาลใหม่ภายใน มิ.ย. เชื่อหากศาล รธน.วินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต.จะไม่ถูกฟ้อง เหตุปฏิบัติหน้าที่ภายในกรอบ กม.เล็งเล่นงาน กกต.เชียงใหม่ อุ้มโกงเลือกตั้ง ส.ส. ชี้เจรจาแก้วิกฤตการเมืองสะดุด เพราะสองฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองชนะ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ว กล่าวว่า ตารางการทำงานของ กกต.หลังจากนี้จะมีการเลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์คาดว่าจะไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ จากนั้นก็จะมีการลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนการเลือกตั้ง ส.ส. ใน 3 จังหวัดภาคใต้ คือ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ในวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งอาจรวม จ.ประจวบคีรีขีนธ์ และกทม. ด้วย โดย กกต.จะประสานหน่วยงานฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่เพื่อให้การลงคะแนนเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนวันที่ 27 เม.ย. จะมีการลงคะแนนเลือกตั้งทดแทน ส.ส.ใน 6 จังหวัดภาคใต้ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ จ.สตูล ชุมพร นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ระนอง และพังงา อย่างไรก็ตามหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคำร้องที่ กกต.ยื่นไปประเด็น 28 เขตที่ยังไม่มีผู้สมัคร ก่อนวันที่ 20 หรือ 21 มี.ค. คาดว่าน่าจะมีการจัดลงคะแนนเลือกตั้งใน 28 เขตดังกล่าวได้ใน วันที่ 27 เม.ย. ซึ่งเป็นเดียวกันกับ 6 จังหวัดภาคใต้ โดยกำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 20 เม.ย. ทั้งนี้ หากการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคาดว่าจะสามารถประกาศรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 95 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในปลายเดือน พ.ค. และคาดว่าจะสามารถเปิดประชุมสภาได้ภายในปลายเดือน พ.ค. และอาจจะมีรัฐบาลชุดใหม่ได้ในต้นเดือนมิ.ย.
นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณี 22 เขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครรายเดียวว่า ในเขตดังกล่าวผู้สมัครต้องได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและมากกว่าคะแนนโหวตโนจึงจะสามารถเป็น ส.ส.ได้ และคิดว่าจะมีเพียงบางส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ดังนั้นก็จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งสามารถเลือกตั้งได้ถึง 3 ครั้ง คาดว่ากระบวนการดังกล่าวใช้เวลา 4-5 สัปดาห์จะสามารถจัดการได้เรียบร้อย
“หากดูจากภาพรวมการเลือกตั้งหากไม่มีการคัดค้านการเลือกตั้งอย่างรุนแรง คาดว่าปลายเดือน พ.ค.สามารถจัดการเลือกตั้งได้เรียบร้อย แต่หากมีการขัดขวางกรเลือกตั้งจะต้องมีการประเมินเป็นรายวัน และส่วนตัวคาดว่าหากไม่มีปัญหาอะไร รัฐบาลใหม่จะเกิดขึ้นได้ภายในต้นเดือน มิ.ย.”
ส่วนกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการจัดการเลือกตั้งชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากศาลชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ กกต.ก็ไม่ได้กลัวว่าจะถูกดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมา กกต.ทำตามกฎหมาย ไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด และระมัดระวังการดำเนินการทุกอย่างไม่ให้ขัดต่อข้อกฎหมาย หากเราไม่มีอะไรที่มั่นใจก็ถามศาลรัฐธรรมนูญ
นายสมชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่กรณีขนคนไปลงคะแนนเลือกตั้งที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้รับการเลือกตั้งว่า ในสัปดาห์นี้ทาง กกต.ยังไม่มีการพิจารณาคำร้องดังกล่าว เนื่องจากยังมีรายละเอียดและข้อมูลไม่ครบถ้วน อีกทั้ง กกต.ยังมีความเห็นไม่ตรงกับทาง กกต.จังหวัดจึงต้องให้ กกต.จังหวัดไปสอบสวนเพิ่มเติม และหากการดำเนินการของ กกต.จังหวัดมีปัญหาก็ต้องตรวจสอบการทำงานของ กกต.จังหวัดด้วย อีกทั้งขณะนี้ กกต.ก็ไม่เห็นด้วยกับผลสอบของ กกต.จังหวัด เนื่องจากเห็นว่าข้อเท็จจริงขัดแย้งกับผลสอบ
นายสมชัยกล่าวถึงความคืบหน้าการเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งสองฝ่ายว่า ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีตอบรับการเจรจารอบที่ 2 จากทั้งสองฝ่าย อาจเป็นเพราะสถานการณ์การเมืองได้เปลี่ยนไป การให้ กกต.เป็นตัวกลางเจรจาอาจยากและไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ แต่หากมีคนกลางอื่นที่สามารถเป็นตัวกลางได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งถ้าทั้งสองฝ่ายคิดว่าการเจรจาจะเป็นทางออกให้แก่บ้านเมือง กกต.ก็พร้อมสนับสนุน เพราะตนเชื่อว่าการเดินหน้าสู่การเจรจายังเป็นทางออกของความขัดแย้ง และนำประเทศออกจากวิกฤต ทั้งนี้เชื่อว่าตัวแปรที่ทำให้การเจรจาครั้งนี้สะดุด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายคิดว่าฝ่ายตัวเองได้เปรียบและนำไปสู่ชัยชนะได้ จึงไม่ปรารถนาที่จะเข้าสู่การเจรจา
“จากการประเมินไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ รัฐบาลยังคงเป็นรัฐบาลรักษาการต่อไป เชื่อว่าจะมีปัญหาอีกมากที่รัฐบาลรักษาการอาจไม่สามารถแก้ได้ ส่วนการชุมนุมแม้จะลดระดับลงบ้างเป็นการชุมนุมทางวิชาการมากขึ้น แต่ก็ไม่สามรถสำเร็จโดยเร็ววัน ดังนั้นรัฐบาลควรเป็นผู้เริ่มต้นเจรจา และควรจะจริงใจในการเจรจา ไม่ใช่ดีแต่พูด แล้วสุดท้ายไม่มีการประสานเพื่อขอเจรจาเป็นอย่างใด ส่วนฝ่ายผู้ชุมนุมขอให้เปิดโอกาสส่งตัวแทนเข้าเจรจาเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศ และ กกต.จะเดินหน้าการประสานทุกฝ่ายต่อไป”