ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจงเหตุการณ์คนร้ายได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้าน ผบ.ทบ.กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ชี้เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม พร้อมสั่งกำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุ
วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้สร้างสถานการณ์ด้วยการวางระเบิด และก่อกวนพร้อมๆ กันหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น สรุปได้ดังนี้ คือ พื้นที่จังหวัดยะลา คนร้ายได้วางระเบิดเสาไฟฟ้า วางวัตถุต้องสงสัย เผายางรถยนต์ เผาสายไฟฟ้า และซุ่มยิงรบกวนฐาน จำนวน 5 อำเภอ
“อำเภอเมืองยะลา จำนวน 1 จุด ระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 1 จุด เสาไฟฟ้าเสียหาย จำนวน 3 ต้น อำเภอยะหา จำนวน 2 จุด ระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 2 จุด เสาไฟฟ้าเสียหาย จำนวน 10 ต้น อำเภอบันนังสตา จำนวน 4 จุด ยิงรบกวน จำนวน 1 จุด เพลิงไหม้ จำนวน 1 จุด ระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 3 จุด เผายางรถยนต์ จำนวน 1 จุด อำเภอธารโต จำนวน 2 จุด ระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 1 จุด เผายางรถยนต์ จำนวน 1 จุด อำเภอกรงปินัง จำนวน 2 จุด เผายางรถยนต์ จำนวน 2 จุด สำหรับพื้นที่จังหวัดนราธิวาส คนร้ายได้วางระเบิด และวางวัตถุต้องสงสัย ดังนี้ พื้นที่อำเภอเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 11 จุด มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย บาดเจ็บ จำนวน 9 ราย อำเภอสุไหงปาดี จำนวน 6 จุด โจมตีฐานปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางระเบิด เพลิงไหม้ อำเภอตากใบ จำนวน 7 จุด วางระเบิด วางวัตถุต้องสงสัย” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังได้กล่าวอีกว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน.ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม และไร้จิตสำนึกของกลุ่มขบวนการ พร้อมกับได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้กำชับเน้นย้ำให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งรัดดำเนินการเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบที่กำหนดไว้ พร้อมกับให้เร่งติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุดต่อไป
สำหรับการสร้างสถานการณ์ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย และทำลายระบบเศรษฐกิจของพื้นที่ และทำลายชีวิตพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยไม่แบ่งเชื้อชาติศาสนา ซึ่งเป็นพฤติกรรมแบบสุดโต่ง เผด็จการ และก่อการร้าย ที่ดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการ และผลประโยชน์ของกลุ่มเท่านั้น โดยได้สร้างความเดือดร้อน และทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนซึ่งต้องการความสงบสุข และยุติความรุนแรงในพื้นที่
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงดำรงความมุ่งหมายในการปฏิบัติงานเพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้พี่น้องประชาชน และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม พร้อมกับขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มองค์พัฒนาเอกชน (NGOs) และเครือข่ายองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ที่ชอบเรียกร้องความเป็นธรรมจากสถานการณ์ แต่กลับเพิกเฉยต่อความรุนแรงที่ผู้ก่อเหตุได้กระทำอย่างไร้มนุษยธรรม ได้ร่วมกันประณามการกระทำดังกล่าว และประกาศจุดยืนในการต่อต้านการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งได้ขัดขวาง ปิดกั้น และทำลายบรรยากาศกระบวนการสร้างสันติภาพตามความต้องการที่แท้จริงของพี่น้องประชาชน” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว