ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เผย มทภ.4 สั่งเพิ่มมาตรการดูแลเป้าหมายอ่อนแอ หวั่นกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าปลุกปั่น
วันนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิด และขนาดยิงราษฎรเสียชีวิต จำนวน 2 คน เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทราบชื่อคือ นายมุกตาร์ อาลีมามะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 บ้านบาเจาะ หมู่ที่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ ด.ช.ลุกมาน อภิบาลแบ บุตรชาย อายุ 6 ปี 2 เดือน อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ที่ 8 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอ.รม.ภาค 4 ขอเรียนชี้แจงว่า พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ขอแสดงความเสียใจต่อญาติ และครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากการกระทำอย่างโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งใดๆ ซึ่งท่านแม่ทัพภาคที่ 4 มีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มขบวนการ และแนวร่วมจะฉกฉวยโอกาส และบิดเบือนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหาทางตอบโต้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ดังเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
โดยได้สั่งเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติพร้อมๆ กับเข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจต่อญาติ และครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต เพื่อป้องกันการเข้ามายุยง ปลุกปั่นของกลุ่มแนวร่วม และเครือข่ายองค์กรต่างๆ ทั้งใน และนอกพื้นที่ รวมทั้งให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเน้นเป้าหมายอ่อนแอ และเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการฉกฉวยโอกาสบิดเบือน กลับกลอก และตอบโต้ต่อผู้บริสุทธิ์ของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ และให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้เร็วที่สุด โดยยืนยันว่า ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติภายใต้หลักกฎหมายอย่างเสมอภาค และเป็นธรรม” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม และองค์กรต่างๆ ที่อาจจะเข้ามายุยงปลุกปั่น บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความหวาดระแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ที่จะนำไปสู่พฤติกรรมใช้ความรุนแรงต่อพี่น้องประชาชนดังเช่นที่ผ่านๆ มา ทั้งนี้ เพื่อช่วยกันปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มขบวนการที่นิยมความรุนแรง สุดโต่ง เผด็จการ และก่อการร้ายต่อมวลมนุษยชาติ
โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า จากการตรวจพิสูจน์ในจุดที่เกิดเหตุที่พบศพนายมุกตาร์ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก กับ 1 หัว และบนเนินดินด้านข้าง พบปลอกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 7 ปลอก นอกจากนั้น ยังพบร่องรอยการลักลอบตัดไม้ และพบไม้กระยาเลย ซึ่งคาดว่าเป็นของ นายมุกตาร์ อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจำนวนหลายท่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า สาเหตุการถูกลอบยิงครั้งนี้เป็นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์การทำไม้เถื่อน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่น ซึ่งจะมีการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุต่อไป