“ยิ่งลักษณ์” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอขยายเวลาชี้แจงโยกย้าย “ถวิล” ขัดรัฐธรรมนูญอีก 15 วัน อ้างติดวันหยุดสงกรานต์หลายวัน เตรียมเอกสารไม่ทัน รอที่ประชุมตุลาการศาลฯ จะอนุญาตหรือไม่
นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้ถูกร้องในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 และเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 (7) หรือไม่ ได้มอบหมายให้ทนายเข้ายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงในคดีดังกล่าวออกไปอีก 15 วันนับแต่วันที่ครบกำหนด 15 วันที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ยื่นคำชี้แจงครั้งแรกคือวันที่ 18 เม.ย. โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากติดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์หลายวันทำให้ไม่สามารถเตรียมเอกสารได้ทัน ทางสำนักงานก็ได้แจ้งหนังสือดังกล่าวให้กับประธานศาลรัฐธรรมนูญได้รับทราบแล้ว ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานศาลรัฐธรรมนูญว่าจะเรียกประชุมคณะตุลาการเป็นกรณีพิเศษเพื่อพิจารณาคำร้อง หรือว่าจะมอบหมายให้ตุลาการคนใดรับผิดชอบพิจารณา
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าจะอนุญาตขยายระยะเวลาให้กับที่ผู้ถูกร้องขอหรือไม่นั้น ศาลไม่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาก่อนระยะเวลาครบกำหนดที่ศาลฯ ให้ยื่นคำชี้แจงครั้งแรกก็ได้ รวมถึงถ้าอนุญาตก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องขยายเวลาให้ทั้ง 15 วันตามที่ขอก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. และให้มีหนังสือแจ้งให้นายกรัฐมนตรียื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมาภายใน 15 วัน หลังจากนั้นคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ได้งดประชุมเนื่องจากอยู่ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยได้นัดประชุมอีกครั้งในวันพุธที่ 23 เม.ย. ขณะที่มีรายงานว่าที่นายกรัฐมนตรีขอเลื่อนการยื่นคำร้องชี้แจงเนื่องจากขอคัดสำเนาเอกสารจากศาลปกครองสูงสุดที่จะนำมาประกอบการยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงติดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ด้วย
วันเดียวกันนี้ นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสศาลรัฐธรรมนูญครบรอบ 16 ปี โดยมีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกันนี้ยังได้จัดบรรยายธรรมเรื่องธรรมะกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยพระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามฯ
โดยพระราชวิจิตรปฏิภาณกล่าวตอนหนึ่งว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีความสำคัญต่อประเทศชาติ จึงต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และขณะนี้ประเทศไทยกำลังป่วยไข้หนัก เพราะแตกความสามัคคี ขาดคนเสียสละ อีกทั้งคนไทยไม่ยอมแก้นิสัยของตนเอง รวมถึงภาระหนี้สินภาครัฐและเอกชนที่งอกเงยขึ้น จนไม่รู้จะแก้ไขได้อย่างไรเพราะไม่มีสภาฯ จึงเป็นหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน และองค์กรอิสระ ที่อย่าคิดแบบศาล แต่ให้คิดเป็นเเบบศาลา คือมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และจะต้องมียารักษาประเทศ โดยยาขนานเเรกจะต้องหยุดความคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูก ห่วงอนาคตของลูกหลาน ให้อภัยซึ่งกันเเละกัน อย่าเชื่อคำยุยงปลุกปั่น ผู้ที่มีความสามารถควรเสียสละออกมาช่วยแก้ปัญหา หยุดการฉ้อฉล
ส่วนยาขนานที่ 2 ทุกฝ่ายต้องหยุดพล่ามว่าตนเองเป็นผู้จงรักภักดีเพียงฝ่ายเดียว หยุดใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน หยุดชักใยในที่แอบแฝง หยุดเเย่งชิงความเป็นใหญ่ ส่วนที่มีการขัดขวางไม่ให้ทำตามรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมีมติและลงสัตยาบันร่วมกันว่าจะทำตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น เพราะถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีศาลและองค์กรอิสระ
