ยันปิดซ่อมแหล่งก๊าซไทย-มาเลย์ ไม่ทำไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้ เตรียมแผนรองรับพร้อม

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กระทรวงพลังงาน เดินสายชี้แจงทำความเข้าใจต่อคนใต้ปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลญ์ ระหว่าง 13 มิ.ย.-10 ก.ค.ไม่ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้เหมือนปีที่แล้ว แม้การผลิตไฟฟ้าในภาคใต้จะลดลง 710 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าจะนะ หยุดผลิต 28 วัน ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทุกแห่ง และส่งเพิ่มมาจากส่วนกลางเป็น 950 เมกะวัตต์ พร้อมขอความร่วมมือคนใต้ลดการใช้ไฟฟ้าช่วงเวลา 18.00-22.00 น.

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (9 พ.ค.) สำนักงานนโยบายพลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดสัมมนา “รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงาน” ณ ห้องประชุมสำนักงานกิจกรรมชั้น 5 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นครั้งที่ 2 หลังจากจัดครั้งแรกที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน และนักศึกษาเข้าร่วม

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าว การจัดสัมมนาในครั้งนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ได้รับทราบถึงการถึงการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ของแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่าไทย-มาเลเซีย A-18 (JDA-A18) หรือแหล่งบงกช ในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2557 นี้ ว่าคนในภาคใต้จะได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากการปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติดังกล่าว รวมถึงการเตรียมความพร้อมของกระทรวงพลังงาน ในการรองรับการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซธรรมชาติ และขอความร่วมมือจากประชาชนในภาคใต้ให้ลดการใช้ไฟฟ้าใสช่วงดังกล่าวด้วย

เนื่องจากในระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2557 นี้ จะมีการปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซีย เป็นเวลา 28 วัน ซึ่งในช่วงดังกล่าวทำให้ไม่มีก๊าซธรรมชาติส่งเข้าโรงผลิตไฟฟ้าที่อำเภอจะนะ จ.สงขลา ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ ต้องหยุดการผลิตไฟฟ้าเป็นเวลา 28 วัน จะทำให้การผลิตไฟฟ้าในภาคใต้หายไป 710 เมกะวัตต์ จากที่ในขณะนี้การผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ดำเนินการได้ทั้งหมด 2,300 เมกะวัตต์ และส่งมาจากภาคกลางอีก 700 เมกะวัตต์ ทำให้สถานการณ์ปกติภาคใต้จะมีไฟฟ้าทั้งหมด 3,000 เมกะวัตต์ รองรับการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ได้เพียงพอที่มีวันละ 2,400 เมกะวัตต์

แต่เมื่อโรงไฟฟ้าจะนะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ ทำให้กระแสไฟฟ้าหายไป 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจุดนี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ในช่วงของการปิดซ่อม 28 วันได้ แต่เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของคนในภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้เตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอในช่วงดังกล่าวไว้แล้ว โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าทุกแห่งในภาคใต้ที่มีอยู่ในขณะนี้ และส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลางมาเพิ่มเติมอีก 250 เมกะวัตต์ จาก 700 เมกกะวัตต์ เป็น 950 เมกกะวัตต์

รวมทั้งจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนในภาคใต้ ร่วมกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา 18.00-22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้ เพื่อให้ระบบการส่งไฟฟ้าจากส่วนกลางมีความมั่นคง ไม่มีปัญหาไฟฟ้าตก และไฟฟ้าดับ โดยการร่วมกันปิดไฟบ้านละ 1 ดวง ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 200-250 เมกะวัตต์ต่อวัน

นายเสมอใจ กล่าวอีกว่า ในช่วงดังกล่าวพื้นที่ภาคใต้จะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้เหมือนปีที่ผ่านมา ที่สายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมโยงจากภาคกลางไปสู่ภาคใต้ช่วงจอมบึง บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขัดข้อง ทำให้ กฟผ.ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้ามาสู่ภาคใต้ได้ และในช่วงเวลา 28 วันที่ปิดซ่อมนั้น จะมีการติดตามเฝ้าระวังการผลิตไฟฟ้า และการใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง หากการผลิต และการใช้ไฟฟ้าเกินจากที่กำลังการผลิต จะมีแผนรองรับ 1-2 ชั่วโมง ก่อนที่ไฟฟ้าจะดับ และการดับไฟฟ้านั้นจะดับเป็นจุดๆ เท่านั้น จะไม่ดับพร้อมกันทั้งภาคใต้ รวมทั้งในส่วนของสถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สถานที่ด้านความปลอดภัย จะไม่มีการดับไฟอย่างเด็ดขาด และแต่ละจุดจะดับไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆ นั้นก็จะไม่มีปัญหาไฟฟ้าดับทั้งเมืองเช่นกัน