xs
xsm
sm
md
lg

ปิดท่อก๊าซใต้จ่อไฟดับ 11กลุ่มอุตฯผวากระทบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เรกูเลเตอร์” เร่งประสาน กฟผ.-กฟภ.และ ส.อ.ท.รับมือก๊าซJDAหยุดจ่าย 28 วันช่วง 13 มิ.ย.-10ก.ค.นี้รับหากใช้ไฟสูงสุด (พีค) เกิน 2.5 พันเมกะวัตต์เสี่ยงต้องดับไฟภาคใต้ กฟภ.เผยกำหนดดับไฟหากเกิดวิกฤตจริง 19 จุด จับตา 11 กลุมอุตสาหกรรมกระทบ ผู้ใช้ก๊าซ NGV สุราษฎร์ธานี หวั่นก๊าซขาดส่งผลกระทบหนักต่อต้นทุนการเดินรถโดยสารและขนส่งสินค้า

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เรกูเลเตอร์ได้ประสานทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ซึ่งเป็นภาคการผลิตเพื่อร่วมลดใช้ไฟฟ้ารองรับ กรณีที่ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย แหล่ง JDA-A18 จะดำเนินการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 10 กรกฎาคม 2557 นี้ รวม 28 วัน โดยยอมรับว่าหากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ภาคใต้เกิน 2,543เมกะวัตต์จะมีความเสี่ยงต้องดับไฟ(ลดโหลด)บางพื้นที่เพื่อรับมือซึ่งทุกส่วนจะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ JDAหยุดจะทำให้ก๊าซฯหายไป 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลาต้องหยุดทันทีไป 710 เมกะวัตต์ทำให้การผลิตไฟในภาคใต้อยู่ที่ 2,306 เมกะวัตต์แต่คาดว่าพีคสูงสุดจะอยู่ที่ 2,400 เมกะวัตต์ ภาคใต้จะเสี่ยงในช่วง พีค เวลา 18.30 - 22.30 น. และกรณีวันที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ 2,543 เมกกะวัตต์ ระบบไฟฟ้าภาคใต้จะมีความเสี่ยงเพิ่มเติมในช่วงบ่ายเวลา 13.30 - 15.30 น.ดังนั้นไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงจะเห็นว่าจะขาดไปราว 250 เมกะวัตต์ดังนั้นจึงต้องหาแผนรับมือไว้ 3แนวทางคือ 1.ให้เอกชนภาคใต้11กลุ่มอุตสาหกรรมของส.อ.ท.ลดใช้ไฟ 250 เมกะวัตต์2.รับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตรายเล็กหรือSPPภาคใต้ 10เมกะวัตต์และ 3.กรณีไฟไม่พอที่สุดจะให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ทำการปลดโหลดหรือเลือกดับไฟบางพื้นที่ใน 19 ระดับ 19 จุดสลับกันไปจุดละ 50 เมกะวัตต์ต่อ 1 ชั่วโมง

นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการเรกูเลเตอร์กล่าว กรณีเจดีเอไฟหายไป 200กว่า เมกะวัตต์หากต้องดับไฟดังกล่าวจะทำให้สูญเสียต่อระบบเศรษฐกิจ 30-40ล้านบาทต่อวัน ดังนั้นการลดใช้ไฟจากเอกชนและคนในพื้นที่จะช่วยได้มากสุดซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฟุตบอลโลกจึงขอความร่วมมือประชาชนดูทีวีแบบร่วมกันดูก็จะช่วยประหยัดได้อีกทาง

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)กล่าวว่า เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าจริงๆพีคที่ใต้อยู่ที่ 2,550 เมกะวัตต์เนื่องจากการใช้ไฟภาคใต้จะเติบโตทุกปีแต่ผลิตได้ 2,300เมกะวัตต์ช่วงนี้จึงทำให้ขาดไฟสำรองประมาณ 250 เมกะวัตต์จึงจำเป็นจะต้องขอความร่วมมือการลดใช้ไฟช่วงพีคเพื่อไม่ให้การส่งไฟจากภาคกลางมายังสายส่งภาคใต้เกินมาตรฐานซึ่งปกติจะต้องไม่ 950 เมกกะวัตต์ แต่หากมีแนวโน้มมากกว่านี้ ทาง กฟผ. จะดำเนินการประสานไปยัง กฟภ. เพื่อหมุนเวียนดับไฟฟ้าบางส่วนตามแผนที่จัดเตรียมไว้

“เราเองเตรียมพร้อมทั้งระบบผลิต ระบบส่ง รวมถึงการจัดสำรองน้ำมันเตา 39 ล้านลิตร ดีเซล 9 ล้านลิตรหากใช้หมดนี้ก็จะกระทบต่อค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ไม่เกิน 1.8 สตางค์ต่อหน่วย”นายสุนชัยกล่าว

นายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการหฟภ.กล่าวว่า หากกฟผ.ประสานให้ปรับโหลดหรือดับไฟพื้นที่กฟภ.ก็เตรียมรองรับไว้แล้วใน 19 กลุ่มพื้นที่สลับกันไปแต่ละแห่งไม่เกิน 1 ชั่วโมงและพื้นที่จะเลือกดับก่อนจะเป็นรอบนอกชนบทห่างไกลที่ไม่มีบ้านคนหรือมีน้อยสุดก่อน แล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาในเขตเมือง โดยสถานที่สำคัญเช่น โรงพยบาล สถานีตำรวจ ศาลากลางจังหวัด ฯลฯ จะไม่ดับ และยังมีรถเคลื่อนที่สำหรับปั่นไฟเป็นเครื่องกำเนิดสำรองไว้กรณีฉุกเฉินอีกด้วย

นายเจน นำชัยศิริ รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปหารือกันในสมาชิกใกล้ชิดซึ่งขณะนี้ทางเอกชนภาคใต้ส.อ.ท.ก็ให้ความร่วมมือรวมถึงที่ไม่เป็นสมาชิกด้วยโดยตั้งเป้าไว้ที่ 11 กลุ่มอุตฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะลดใช้ไฟได้ 250 เมกะวัตต์

***เอ็นจีวีกระทบด้วย

จากกรณีทางบริษัทผู้ผลิตแหล่งก๊าซธรรมชาติภาคใต้ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กำหนดซ่อมบำรุงอุปกรณ์ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2557 นี้ ส่งผลให้สถานีจ่ายก๊าซหลักจะนะ จังหวัดสงขลา จำเป็นต้องหยุดผลิตก๊าซ NGV จึงไม่สามารถจ่ายก๊าซให้สถานีบริการ NGV ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างได้นั้น ทาง ปตท.จะต้องนำก๊าซมาจากจังหวัดสมุทรปราการเพื่อมาส่งให้สถานีบริการก๊าซในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 4 แห่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 แห่ง และจังหวัดสงขลา 3 แห่ง ดังนั้น จะทำให้ก๊าซในสถานีบริการต่างๆ ลดลงจากปกติ พร้อมกันนี้ ทาง ปตท.จะทำการปิดสถานีบริการ NGV ปตท.จะนะ (หน้าสถานีจ่ายก๊าซหลักจะนะ) และสถานีบริการ NGV ปตท.สายแก้วหาดใหญ่ ถนนราษฎร์อุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นการชั่วคราว

ขณะที่บรรยากาศที่สถานีบริการก๊าซ NGV ถนนสาย 417 อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ (22 เม.ย.) ยังมีการบริการตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการยังไม่รู้ว่า ในเดือนมิถุนายนก๊าซ NGV ในท้องตลาดจะลดน้อยลง นายวิโชค หนูแดง ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารระบุว่า หากปริมาณก๊าซลดน้อยลงไม่เพียงพอต่อความต้องการย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเดินรถ จึงเรียกร้องให้ ทาง ปตท.เร่งขนส่งก๊าซมาสำรองให้เพียงพอต่อความต้องการ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาได้

นางบุญเมือง อิงอ้น ผู้จัดการสถานีบริการ หจ.มะปริงปิโตเลี่ยม ต.วัดประดู่ อ.เมือง กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถทุกชนิดเข้าใช้บริการเติมก๊าซ NGV วันละกว่า 500 คัน จำนวนก๊าซที่ใช้ประมาณ 12 ตันต่อวัน ทาง ปตท.ได้แจ้งมาแล้วว่าจะลดปริมาณก๊าซที่เคยส่งให้ลง ย่อมส่งผลกระทบต่อความต้องการของรถต่างๆ เช่น รถโดยสาร รถขนส่งสินค้า และรถประชาชนทั่วไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น