ยะลา - ชาวบ้านอำเภอเบตงกว่า 200 คน ฮือไล่สารวัตรใหญ่ สภ.ยะรม พร้อมลูกน้องอีก 2 นาย อ้างปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้าน จี้ย้ายออกพื้นที่ใน 24 ชม. ด้าน ผบก.ภ.จว.ยะลา หารือแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมสั่ง สวญ.สภ.ยะรม ช่วยราชการที่ ภ.จว.ยะลา พร้อมตั้งกรรมการสอบ
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรยะรม ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีกลุ่มชาวบ้านกว่า 200 คน นำโดย นายบัณฑิต ประเสริฐคงแก้ว พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านรวมตัวขับไล่ พ.ต.ท.พรชัย ขวัญปัญญา สวญ.สภ.ยะรม พร้อมด้วย ร.ต.ต.นรินทร์ กาญจนราช รอง สวป.สภ.ยะรม พร้อมพวกอีก 2 นาย
โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.พรชัย ขวัญปัญญา สวญ.สภ.ยะรม พร้อมด้วย ร.ต.ต.นรินทร์ กาญจนราช รอง สวป.สภ.ยะรม พร้อมพวกอีก 2 นาย ได้ทำเกินกว่าเหตุโดยเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 เม.ย.57 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้จับกุมตัว นายสิทธิโชค บุญเพ่ง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/23 ม.1 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด .38 มม. จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก
โดยกล่าวหาว่า พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยมีอาวุธปืน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน
โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า ได้ยินเสียงปืนบริเวณสนามบินจันทรัตน์ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.ยะรม ประมาณ 200 เมตรจึงได้ไปตรวจสอบ ขณะเข้าที่เกิดเหตุพบชายวัยรุ่นขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กง 8681 ยะลา โดยชายวัยรุ่นดังกล่าวได้ขับขี่อยู่บริเวณ สภ.ยะรม จึงได้ออกติดตามจับกุม และได้มาพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดติดเครื่องอยู่ริมถนนในซอยหมู่บ้านจันทรัตน์
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวของตรวจค้นทันใดนั้น นายสิทธิโชค บุญเพ่ง (ทราบชื่อภายหลัง) ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่เจ้าหน้าที่ จำนวน 1 นัด แล้วขับรถสวนทางออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยิงไปที่ล้อรถของนายสิทธิโชค เพื่อจะให้หยุดรถแล้วจับกุมตัว และเพื่อป้องกันตัว แต่นายสิทธิโชคไม่ยอมหยุดรถ และได้ขับรถหนี ต่อมา นายสิทธิโชค ได้ขับรถมาที่โรงพยาบาลเบตง เนื่องจากถูกอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงใส่เข้าบริเวณซี่โครงด้านซ้ายทำให้ซี่โครงหัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตามมาอายัดตัว และได้ตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว
ต่อมา นายอ้วม บุญเพ็ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/13 ม.4 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบิดาของนายสิทธิโชค บุญเพ่ง พร้อมด้วยนายบัณฑิต ประเสริฐคงแก้ว พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านกว่า 200 คน รวมตัวกันหน้า สภ.ยะรม เพื่อขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวโดยข้อกล่าวหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งขึ้นนั้นเกินกว่าเหตุ เนื่องจากมีชาวบ้านบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเป็นพยานว่า ตำรวจชุดดังกล่าวได้ไล่ติดตาม และได้ยิงเข้าใส่รถนายสิทธิโชค ทันทีโดยไม่มีการเรียกให้หยุดก่อนตามที่ทางเจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง
ซึ่งทางนายอ้วม บิดา นายสิทธิโชค กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตั้งข้อหาครั้งนี้ค่อนข้างที่จะรุนแรงเนื่องจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน และลูกชายของตนทราบว่า ไม่ได้ยิงปืนใส่ตำรวจ เพียงใช้ปืนยิงใส่พื้นใกล้ที่จอดรถเท่านั้น หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ระดมยิงใส่ทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 และขนาด 9 มม. จำนวนหลายนัด ตนเองเมื่อโดนยิงจนได้รับบาดเจ็บแล้วจึงพยายามขับรถมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง และไม่คิดจะหลบหนี ซึ่งสวนทางกับข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดังกล่าว จึงได้รวมตัวกับชาวบ้านใน ต.ยะรม ขอความเป็นธรรมที่แท้จริง
หลังจากนั้น พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้มีคำสั่งด่วนที่สุดให้ พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ รอง ผกก.(ป.) สภ.เบตง มารักษาราชการแทนเป็นเวลา 30 วัน ต่อมา พ.ต.ท.โสภณ สายสุรีย์ พร้อมด้วย พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผบ.ฉก.ทพ.33 ได้เข้ามาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลสรุปว่า เบื้องต้นจะให้ พ.ต.ท.พรชัย ขวัญปัญญา สวญ.สภ.ยะรม พร้อมด้วย ร.ต.ต.นรินทร์ กาญจนราช รอง สวป.สภ.ยะรม พร้อมพวกอีก 2 นาย ไปช่วยราชการที่ ภ.จว.ยะลา
และจะตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อสอบสวนว่าเป็นไปตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวอ้างหรือไม่ หากเป็นจริงก็ต้องดำเนินการตามระเบียบวินัยต่อไป ซึ่งการเจรจา และข้อเรียกร้องดังกล่าวของผู้ชุมนุมทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจ และแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา