นครศรีธรรมราช - ระบบการผลิตน้ำประปานครศรีฯ ยังประสบปัญหา เครื่องสูบน้ำทั้งหมด 4 ตัวพังเกลี้ยง ประชาชนกว่า 10,000 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน การเก็บค่าน้ำประปามีความสับสน ออกบิลซ้ำซ้อน ค่าน้ำแพงเกินกว่าปกติ ด้านบริษัทเอกชนอิสราเอล เตรียมทุ่มงบกว่า 3,000 ล้าน สร้างโรงงานป้อนน้ำแก้ปัญหาระยะยาว
วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนผู้ใช้น้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และที่อาศัยอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงอีก 10 แห่งต้องประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค จากการที่น้ำประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หยุดไหลโดยสิ้นเชิงในหลายพื้นที่ติดต่อกันคราวละหลายวัน หรือแม้จะไหลแต่ก็ไหลอ่อนไม่มีแรงดัน จึงมีปัญหาในการใช้น้ำอย่างทั่วหน้า ขณะที่แหล่งน้ำสำหรับผลิตประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช คือ น้ำจากต้นน้ำท่าดี ที่ไหลผ่านมายังคลองท่าใหญ่ ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดน้ำสำคัญยังคงมีน้ำสำหรับการผลิตอย่างเพียง แต่ปัญหาสำคัญคือ ระบบการสูบผลิตที่ไม่มีความมั่นคงเพียงพอ
มอเตอร์เทอบายน์สำหรับสูบ และส่งน้ำระยะไกล จำนวน 4 เครื่อง ที่จะต้องส่งน้ำมายังโรงผลิตห่างออกมาถึง 13 กิโลเมตร ชำรุดเสียหายพร้อมกันทั้งหมด โดยที่ไม่มีระบบสำรองฉุกเฉินเพียงพอทำให้ระบบการผลิต และส่งจ่ายน้ำเกิดปัญหาหลายหมื่นครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ขณะที่การแก้ไขปัญหาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ทำได้เพียงการใช้รถน้ำ และรถดับเพลิงขนน้ำจากหลุมบ่อทรายเก่ามาป้อนในระบบการส่งจ่ายโดยที่ไม่ได้ผ่านการควบคุมคุณภาพ ยิ่งทำให้ความกังขาในมาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภคขยายวงมากขึ้น และตอกย้ำด้วยวิกฤตการจัดเก็บค่าน้ำประปาที่สับสนสนวุ่นวายทั้งการออกบิลค่าน้ำที่แพงอย่างเหลือเชื่อหลายหมื่นบาท ไปจนถึงนับแสนบาท หรือการออกบิลซ้ำซ้อน สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง
“ผมพยายามแก้ไขตลอดเวลาแต่มีปัญหาเสียอย่างต่อเนื่อง เครื่องสูบน้ำ 4 ตัวทยอยเสียเนื่องจากมีอายุมากว่า 20 ปี และเพิ่งรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ถ้าหากบอกก่อนล่วงหน้า 1-2 เดือนซื้อได้ทัน แต่ที่ซื้อไม่ทันเพราะเจ้าหน้าที่เพิ่งบอก และเครื่องเสียกะทันหันตอนนี้เดินได้ 1 ตัว อีกตัวไปซ่อม และอีก 2 ตัวซ่อมใหญ่อีกประมาณ 2 เดือนจึงเสร็จ จะซื้อสำรอง 3 ตัว ตัวละ 2.7 ล้าน ไหนเสียจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนได้ และยืนยันว่าน้ำสำหรับผลิตประปายังมีเพียงพอ แต่เครื่องสูบเสียเท่านั้นเอง” เป็นคำชี้แจงจาก ผศ.เชาวน์วัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช
ส่วนแผนในการแก้ไขปัญหานั้น นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช บอกว่า นักลงทุนจากประเทศอิสราเอลกำลังเตรียมที่จะเข้ามาลงทุนจัดทำโครงการผลิตน้ำสำหรับป้อนให้การประปานครศรีธรรมราช ด้วยงบประมาณ 3,200 ล้านบาท โดยใช้พื้นที่ของเอกชนในตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม โดยปีแรกที่ดำเนินการนั้นจะซื้อน้ำดิบเข้ามาสู่การผลิตของการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเอง และในปีถัดไป เอกชนจะต้องผลิตน้ำเข้าสู่ระบบการจ่ายน้ำของเทศบาลได้เลย และทั้งหมดเขากำลังจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า นี่เป็นสิ่งที่ เชาวน์วัศน์ เสนพงศ์ อธิบายถึงวิสัยทัศน์ในการจัดการประปาเทศบาลในอนาคต
ขณะที่ผู้รู้ในวงการประปาภูมิภาค อธิบายในมุมกลับกันว่า เทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังฝันกลางวัน การลงทุนขนาดใหญ่ของเอกชนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลงทุนขนาดนั้น การผลิตของเอกชนย่อมที่จะหวังผลกำไรในการขายน้ำ แม้แต่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชเอง มีมุมที่ผู้ใช้น้ำยังไม่รู้เลยว่าได้ขึ้นราคาน้ำไปแล้วโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำจากผู้บริหารชุมเดิมอยู่ที่ 3 บาทต่อหน่วย มาปัจจุบันไปอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย เป็นเพราะต้องการรายได้เข้าเทศบาลเพิ่มสูงขึ้นใช่หรือไม่ หรือถ้าไปดูที่การประปาส่วนภูมิภาค ที่นครศรีธรรมราช รู้หรือไม่ว่าเขาขายอยู่ในหน่วยละ 18 บาทด้วยซ้ำ
“ทำนองเดียวกัน เอกชนเขาต้องการกำไรการลงทุน 3,200 ล้านบาท เขาต้องคิดแล้วว่าต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะคุ้มทุน ดังนั้น การใช้น้ำราคาถูกจึงไม่ใช่แน่นอน และการเข้ามานั้นต้องผ่านกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนเนื่องจากการสร้างแหล่งน้ำขนาดใหญ่ต้องขุดดินมหาศาลในพื้นที่เป้าหมาย การวางท่อ การสร้างโรงผลิตน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อชุมชน ดังนั้น จึงมีกระบวนการ หรือที่เราเรียกว่ากระบวนการ EIA และ EHIA นั่นเอง ขั้นตอนนี้ 4 ปีไม่เสร็จแน่นอนที่บอกว่า 1 ปีเริ่มดำเนินการได้นั้น เป็นความฝันที่เกิดขึ้นกลางเที่ยงวัน” ผู้เชี่ยวชาญรายนี้อธิบาย
ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้น้ำของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในขณะนี้จึงไม่ใช่ว่าเป็นการขาดแหล่งน้ำสำหรับผลิตประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไม่ใช่อยู่ที่ลูกน้องไม่รายงานให้ทราบ แต่ปัญหาหลักใหญ่ใจความจริงๆ จึงอยู่ที่วิสัยทัศน์ และพันธกิจของผู้รับผิดชอบต่างหาก