พังงา - องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา จัดค่ายเยาวชนต้านยาเสพติด และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อต้องการให้เยาวชนใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์ รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม เรียนรู้โทษภัยจากยาเสพติด และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่บริเวณศูนย์เรียนรู้การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเทือกเขากระทะคว่ำเฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 7 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา นายอรรถพล ไตรศรี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายบัญชา ธนูอินทร์ ปลัดอำเภอเมืองพังงา เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายต้านยาเสพติดและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรม โดยมีนายอุดม สิงหการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 และเยาวชน ประชาชน จำนวน 200 คนให้การต้อนรับ
นายอุดม สิงหการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เปิดเผยว่า โครงการเปิดค่ายเยาวชนในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เด็กๆ เยาวชนใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนในเกิดประโยชน์ รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม ศึกษาเรียนรู้โทษภัยจากยาเสพติด รู้จักการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในชุมชน โดยกำหนดให้มีการเข้าค่ายตั้งแต่วันที่ 8-11 เม.ย.2557 มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 200 คน
ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานแก้ปัญหาของยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานการศึกษาทั้งใน และนอกระบบ หรือแม้กระทั่งครอบครัว แต่การแพร่ระบาดของยาเสพติดไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนค่อนข้างรุนแรงจึงเป็นหน้าที่ของเราทุกภาคส่วนต้องมาช่วยกันเช่นครั้งนี้ เช่น อบจ.พังงา กศน.เมืองพังงา อบต.นบปริง กองทุนหลักประกันสุขภาพชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนในครั้งนี้ คาดว่าเมื่อเสร็จสิ้นโครงการจะเกิดชุมชนที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะสามารถป้องกันตนเองจากยาเสพติดได้ รวมถึงเกิดพื้นที่ต้นแบบในการอนุรักษ์สำหรับชุมชนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นายอรรถพล ไตรศรี รองนายก อบจ.พังงา กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหายาเสพติด และปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเยาวชนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการปลูกฝังที่ดี ให้มีความรู้ มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง ช่วยกันป้องกัน และยับยั้งการระบาดของยาเสพติด โดย อบจ.พังงา ได้สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 80,000 บาท เพื่อให้การเข้าค่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ และขอให้เยาวชนทุกคนนำความรู้ที่ได้รับทั้งภาควิชาการ และภาคปฎิบัติจากคณะวิทยากร ไปเป็นแนวทางปฎิบัติเพื่อที่จะได้อยู่ในกรอบแห่งความดี นำมาซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมส่วนรวมต่อไป