ปัตตานี - ผู้ใหญ่บ้านโลทู ม.6 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จัดอบรมโครงการทัศนศึกษา และดูงานที่จังหวัดกระบี่ พาเยาวชนในพื้นที่ทำกิจกรรมสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดช่วงปิดภาคเรียน ได้รับการสนับสนุนจาก ศอ.บต.
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่หมู่บ้านโลทู ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี นางมัสยีหยะ เด็งลา ผู้ใหญ่บ้านโลทู ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เยาวชนอาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อเป็นแนวร่วมในการก่อเหตุสร้างความรุนแรงในพื้นที่ ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี นับเป็นพื้นที่หนึ่งที่มักเกิดเหตุบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังทำให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนถูกเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของความรุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอด
เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง และเปลี่ยนทัศนคติร่วมกันเพื่อเกิดความหวงแหนพื้นที่บ้านเกิด ร่วมการแก้ไข และพัฒนาร่วมกัน ทางผู้ใหญ่บ้านโลทู ม.6 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จึงได้จัดการอบรมกลุ่มเยาวชนขึ้น ล่าสุด ได้ร่วมกับกลุ่มสื่อชายแดนใต้ และกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ จัดกิจกรรมสร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้แก่เยาวชนในพื้นที่ช่วงปิดภาคเรียน ตามโครงการทัศน์ศึกษา และดูงานที่จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 22-27 มีนาคม 2557 ที่โรงแรม อัลอามีน อ.เมือง จ.กระบี่ โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ในเรื่องเนื้อหาสาระจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านนายอับดุลลา ดอเลาะ เยาวชนในพื้นที่กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเปิดหูเปิดตา ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาดูสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ มาครั้งนี้ได้เห็น และได้ความรู้ใหม่ๆ ที่ทำให้เราคิดอะไรได้มากกว่าทุกวัน สิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความรู้สึกดีใจมากคือ การที่ผู้ใหญ่บ้าน ให้ความสำคัญกับพวกเราทำให้เรามีที่พึ่ง มีที่ปรึกษา และกล้าที่จะคิดตัดสินใจทำในสิ่งดีๆ เพื่อเกิดการพัฒนาชุมชนให้เกิดความสงบสุข ก็อยากของของคุณ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เห็นความสำคัญของกลุ่มเยาวชนจนทำให้ผู้ใหญ่สามารถจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
ในส่วนเรื่องของความไม่สงบที่เกิดขึ้นมองว่า ทุกคนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และเชื่อว่าความรุนแรงไม่สามารถสร้างความสงบให้เกิดขึ้นได้ การพูดคุยการเจรจาระหว่างกันเท่านั้นที่จะทำให้ปัญหาทั้งหมดจบลงได้ และเชื่อว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นในพื้นที่ก็พร้อมที่จะพูดคุยเพื่อยุติปัญหาแต่ต้องหากลุ่มบีอาร์เอ็นจริงให้เจอ
