ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สภาพัฒนาการเมือง ลงพื้นที่ภูเก็ต จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากตัวแทนประชาชน ขับเคลื่อนแผนพัฒนาภาคใต้-ภูเก็ตมหานคร
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (25 มี.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพล จ.ภูเก็ต ศ.ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงผลการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของสภาพัฒนาการเมือง ว่า สำหรับการจัดประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนพี่น้องประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ ในเรื่องที่สภาพัฒนาการเมืองให้ความสำคัญ และรวมถึงการรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานของสภาพัฒนาการเมืองด้วย
โดยได้กำหนดประเด็นของการอภิปราย แผนพัฒนาภาคใต้ แผนขับเคลื่อนภูเก็ตมหานคร จากนั้นแบ่งกลุ่มเสวนา 5 กลุ่มย่อย ตามประเด็นที่มีความสำคัญ ประกอบด้วย 1.เรื่องพลังงาน 2.ความมั่นคง 3.จังหวัดบูรณาการ 4.ชุมชนจัดการตนเอง และ 5.วิถีชุมชน ซึ่งจะนำข้อคิดเห็นต่างๆ เสนอในการประชุมสภาพัฒนาการเมืองสัญจรที่จะมีขึ้นต่อไป
ศ.ดร.ธีรภัทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การจัดประชุมฯ ในครั้งนี้ได้แบ่งกลุ่มสมาชิกออกเป็น 4 กลุ่ม ในการลงพื้นที่ดูงาน โดยกลุ่มที่ 1 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ดูเรื่องการจัดการตนเอง และปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดสงขลา กลุ่มที่ 2 ดูปัญหาความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี กลุ่มที่ 3 ลงพื้นที่เกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ที่ จ.พังงา ว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไปได้มากน้อยแค่ไหน และกลุ่มที่ 4 ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดูชุมชนจัดการตนเองบ้านบางโรง ต.ป่าคลอก เพื่อศึกษาว่าเขามีการจัดการตนเองอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา โดยได้ร่วมกันตั้งเป็นชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์ มีเงินหมุนเวียนในชุมชน 91 ล้านบาท และมีการปล่อยกู้ มีการจัดตั้งศูนย์เยาวชน และศูนย์ฝึกอาชีพ ด้วย
และนอกจากนี้ ยังได้ดูชุมชนเกษตรสวนยาง ต.ป่าคลอก ลงพื้นที่ดูปัญหาเรื่องของสิทธิพื้นฐานของชาวเล ต.ราไวย์ ในเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัย สิทธิในการประกอบอาชีพ หรือการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของสภาพัฒนาการเมืองที่เราจะต้องไปช่วยเขา ซึ่งตนก็ได้เสนอเรื่องนี้ ผ่านทางท่านรองสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยเสนอให้ทางจังหวัดเสนอซื้อที่ดินของเอกชนที่พี่น้องชาวเลอาศัยอยู่ แล้วไปจัดเก็บค่าเช่า ดูแลเรื่องสิทธิพื้นฐานของชุมชน และการประกอบอาชีพ ซึ่งทางรองผู้ว่าฯ ก็รับที่จะไปดำเนินการต่อ
“ในการประชุมนั้นได้ฝากผู้แทนชุมชนท้องถิ่นต่างๆ นำข้อคิดต่างๆ ไปพิจารณาต่อไป ไม่ว่าจะในเรื่องของการรักษาเอกลักษณ์ของการเป็นชุมชนดั้งเดิม โดยรักษาความสมดุลกับความแตกต่างหลากหลายที่เกิดขึ้น สู่การต่อยอดทางด้านการท่องเที่ยว รวมถึงในเรื่องของจังหวัดปกครองตนเอง ซึ่งทางสภาพัฒนาการเมือง จะมีการล่ารายชื่อ 1 ล้านรายชื่อ เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.การบริหารจังหวัดปกครองตนเองพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยจะเสนอต่อสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อไป ถ้าร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นร่างกฎหมายกลาง ถ้าผ่านการพิจารณา แต่ละจังหวัดก็จะมีกระบวนการพัฒนาตนเองได้ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่แนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมได้ต่อไป” ศ.ดร.ธีรภัทร์ กล่าว