xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าไทยเตรียมฉุดเศรษฐกิจใต้ ดันการค้าชายแดนทะลุ 2 ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - คกก.พัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย พบเศรษฐกิจภาคใต้ชะลอตัวหนักจากผลกระทบราคายางพารา และปาล์มน้ำมันดิ่งเหว เร่งสร้างโอกาสพัฒนาภาคการเกษตร คัดค้านนำเข้านำมันปาล์มของ ก.พาณิชย์ เตรียมดันการค้าชายแดนในปี 2558 ให้ถึงเป้า 2 ล้านล้านบาท

วันนี้ (25 มี.ค.) ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ หอการค้าไทย นำโดย นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ พร้อมด้วยประธานหอการค้าใน 14 จังหวัดภาคใต้ เข้าประชุมพัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ โดยมีการสรุปถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของภาคใต้พบว่า ต้องพึ่งพาจากเศรษฐกิจภาคการเกษตรเป็นหลักและกำลังชะลอตัว ทั้งการบริโภค และการลงทุน สืบเนื่องจากราคายางพารา และปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจกำลังมีราคาตกต่ำ

นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอันดามัน แสดงความเห็นว่า จังหวัดฝั่งอันดามันขับเคลื่อนสภาวะเศรษฐกิจกับยางพารา และปาล์มน้ำมัน แต่พบว่าปีนี้กลับแย่กว่าปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวยังคงอยู่ที่ตลาด 2 กลุ่มคือ กลุ่มยุโรป สแกนดิเนเวีย ส่วนกลุ่มหลังคือ กลุ่มเอเชียลดลงอย่างมาก จังหวัดที่กระทบหนักคือ ระนอง ตรัง ส่วนกระบี่ ภูเก็ต และพังงา มีผลกระทบไม่มากนัก

“การค้าขายแย่ลงมาก โดยรวมไตรมาสที่ 1 ด้อยกว่าปี 2556 ซึ่งยังต้องดูความชัดเจนในทิศทางการเมือง และเศรษฐกิจโลก ขณะที่การท่องเที่ยวในกลุ่มชาวเอเชียนั้น การเมืองโดยเฉพาะสถานการณ์ฉุกเฉินได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มชาติที่มีความอ่อนไหว เช่น จีน ฮ่องกง นักท่องเที่ยวเหล่านี้ชะลอการเดินทาง ขณะที่คนไทยเองไม่มีอารมณ์การท่องเที่ยวเข้าในกลุ่มจังหวัดอันดามันมากนัก ภาพรวมจึงยังไม่กระเตื้องแม้ว่าการเมืองจะทรงตัวแต่ยังคงมีปัจจัยอื่นอีก” ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอันดามันระบุ

เช่นเดียวกับ นายสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอ่าวไทย กล่าวว่าพืชเศรษฐกิจคือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน รายได้ที่มาจากส่วนนี้ลดลงมาก การจับจ่ายชะลอตัวไปจนถึงการบริโภค การลงทุน หอการค้าจึงคำนึงถึงการสร้างรายได้ภาคเกษตรกรรมเป็นสำคัญเนื่องจากเป็นฐานเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ ดังนั้น การขับเคลื่อนเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ความสำคัญแก่พืชผัก ข้าวพื้นเมือง เกษตรกรที่มีพื้นที่ และทางเลือกซึ่งมีอีกมากโดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช

“เรากำลังให้ความสำคัญกับพืชปลอดภัย ลดสารเคมี กระตุ้นช่องทางจำหน่าย หรือการตลาดให้ดีขึ้น สร้างความร่วมมือทางกลไกของภาคเอกชน รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ฝั่งอ่าวไทยมีศักยภาพแต่ต้องยกเพิ่มระดับพยายามให้มีการกระจายแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นเชื่อมโยงกันทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน” ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดอ่าวไทยกล่าว

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ หอการค้าไทย ระบุว่า เราได้แบ่งกลุ่มภาคธุรกิจในภาคใต้ออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกันคือ 1.กลุ่มเกษตรกรรม 2.กลุ่มท่องเที่ยว 3.กลุ่มการลงทุน 4.กลุ่มอสังาหริมทรัพย์ และ 5.กลุ่มการค้าชายแดน รายได้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของภาคใต้ มาจากการประมง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ขณะที่ราคายางยังตกต่ำ ไทยผลิตยางพาราได้ 3 ล้านตัน ส่งออก 2.7 ล้านตัน เหลือสต๊อก 3 แสนตัน สต๊อกโลกเหลือ 6 แสนตัน ยิ่งยังฉุดราคาให้ต่ำอยู่ต่อไปอีก

“หอการค้าทั้ง 14 จังหวัด กำลังเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาการเกษตรสร้างโอกาสให้มากขึ้น ทั้งยังยืนยันถึงการคัดค้านโครงการนำเข้าน้ำมันปาล์ม ของกระทรวงพาณิชย์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะส่งผลกระทบซ้ำเติมราคาปาล์มภายในประเทศ พร้อมทั้งขยายโอกาสทางด้านการท่องเที่ยวให้มีความเชื่อมโยงระหว่างฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยให้มากขึ้น เนื่องจากพบว่า ยังมีจังหวัดภูเก็ต และกระบี่ ที่มีอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวสูง ขณะเดียวกัน เห็นควรเร่งรัดให้เร่งพัฒนาระบบคมนาคมทางรางกระจายไปยังจังหวัดฝั่งอันดามัน รวมทั้งพัฒนาระบบจราจร 4 ช่องจราจร”

ขณะเดียวกัน การค้าชายแดนนั้นพบว่าที่ผ่านระบบศุลกากรมีสูงถึง 9 แสนล้านบาท แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าภาคใต้จะมีมูลค่าอยู่ในนี้สูงถึง 5 แสนล้านบาท ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วยังมีระบบการค้าที่ไม่ผ่านศุลกากรอยู่อีก โดยคาดว่าในปี 2558 หอการค้าไทยจะเร่งผลักดันให้มีการขยายตัวสูงถึง 2 ล้านล้านบาท

 
 






กำลังโหลดความคิดเห็น