ปัตตานี - นักวิชาการปัตตานี ชี้ตำรวจต้องขอโทษครอบครัวของมูฮาหมัดอัณวัร เพราะการปฏิบัติดังกล่าวเจ้าหน้าที่กำลังทำผิดนโยบายข้อ 8 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติอย่างร้ายแรง
วันนี้ (25 มี.ค.) จากกรณีที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาน กล่าวหานายมูฮาหมัดอัณวัร เป็นผู้ก่อเหตุยิงพระสงฆ์ และราษฎรไทยพุทธที่กำลังรอตักบาตร เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 57 ที่ผ่านมานั้น แล้วประสานขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง ในการนำกำลังเข้าไปหาที่บ้านเพื่อพิสูจน์ตัวอย่างสารพันธุกรรมของนายมูฮาหมัดอัณวัร และครอบครัว ในขณะที่นายมูฮาหมัดอัณวัร ติดคุกอยู่ที่เรือนจำกลางปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.56 สร้างความตกใจ และวิตกกังวลให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแม่วัย 62 ปี ที่กำลังป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องได้รับความบอบช้ำจากกรณีดังกล่าวไม่น้อย
ด้าน นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง นักวิชาการปัตตานี ได้กล่าวว่ากรณีของนายมูฮาหมัดอัณวัร ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิก BRN ถูกจับ และศาลฎีกาตัดสินติดคุก 12 ปี กรณีเช่นนี้การที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.ท.ภราดร มีการพูดคุยกับสมาชิก BRN ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นั้นแสดงว่ารัฐบาลกำลังจะหาทางพูดคุยกับผู้คิดต่าง และต่อสู้ด้วยสันติวิธี
ดังนั้น การที่มีกรณีกล่าวหา นายมูฮาหมัดอัณวัร ในครั้งนี้ซ้ำ เป็นการตอกย้ำความไม่ยุติธรรมและการซ้ำเติมความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ในการจะเปิดพื้นที่พูดคุยสันติภาพตามนโยบายข้อ 8 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งรัฐสภามีมติยอมรับแนวทางดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กำลังทำผิดต่อนโยบายแห่งรัฐอย่างร้ายแรง ตามนโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉบับ 2555-2557 ที่นโยบายข้อ 8 ที่ระบุว่า เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม และเอื้อต่อการพูดคุยในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง และการให้หลักประกันในการเข้ามามีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการเสริมสร้างสันติภาพ
นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง ยังกล่าวอีกว่า โดยมารยาทความเป็นสุภาพชน ควรที่จะแสดงออกในสิ่งดี สิ่งที่งามต่อประชาชน เพราะโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีงามที่เจ้าหน้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ดีๆ เพื่อเรียกร้องความไว้เนื้อเชื่อใจกลับมาได้ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าหน้าที่จะดื้อดันทุรัง เอาแต่ความรู้สึกอารมณ์ส่วนตัวเป็นหลัก นั่นมิได้หมายความว่าจะแก้ไขปัญหาได้ซึ่งมีแต่จะเกิดปัญหาความร้าวฉานต่อสังคมนี้มากยิ่งขึ้น