ยะลา - ตำรวจภูธร จ.ยะลา จัดโครงการสานสัมพันธ์เสริมสร้างความเข้าใจ พร้อมเร่งระดมความเห็นจากผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่น เพื่อระดมความคิดหาแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบ หลังสถานการณ์ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประสานสัมพันธ์เสริมสร้างความเข้าใจในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จัดขึ้นเพื่อพบปะผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดยะลา เพื่อระดมความคิดเห็นในการสร้างสันติสุขในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.ยงยุทธิ์ เจริญวานิช ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าร่วมกว่า 500 คน
พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ส่งผลกระทบด้านจิตใจแก่บุคคลทั่วไปทุกสาขาอาชีพ โดยฝ่ายตรงข้ามได้ฉกฉวยเอาศาสนาไปปลุกระดม จนทำให้มองไปว่าศาสนามีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นเงื่อนไขในการสร้างความหวาดระแวงระหว่างประชาชนกับประชาชน หรือแม้กระทั่งระหว่างรัฐกับประชาชน ประกอบกับที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัฐยังไม่ได้รับความร่วมมือการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบจากประชาชนในพื้นที่เท่าที่ควร
ดังนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา จึงได้จัดโครงการประสานสัมพันธ์เสริมสร้างความเข้าใจในพื้นที่จังหวัดยะลาขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ได้ระดมความคิดเห็นในการหาทางออกของการแก้ปัญหาความไม่สงบ เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ประกอบกับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่นถือว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ และถือเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่ประชาชนให้ความเคารพ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จำต้องอาศัยผู้นำศาสนาผู้นำท้องถิ่นเป็นตัวประสานเพื่อปิดช่องว่างของความหวาดระแวง และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนในพื้นที่
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มอบหมายให้สถานีตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จัดทำโครงการเชิงปฏิบัติการสานสัมพันธ์เสริมสร้างสันติสุข โดยจัดให้มีการอบรม และเสวนาร่วมกันระหว่างข้าราชการตำรวจ ผู้นำศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำแนวความคิดที่ได้รับไปปรับแนวทางการปฏิบัติของแต่ละฝ่าย ซึ่งผลการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวทำให้ข้าราชการตำรวจ กับผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่นเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเข้าใจปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ต่อไป