ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศุลกากร รวบต่อเนื่องลักลอบขนยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต ในรอบปีงบประมาณ 57 ตั้งแต่ ต.ค.56-ปัจจุบัน มีการจับกุมแล้ว 5 ราย ล่าสุด สาวไทยลอบขนยาไอซ์ 2 กก. มูลค่า 7 ล้าน แต่ไม่พ้นมือเจ้าหน้าที่รวบได้คาด่านศุลกากร หลังตามเบาะแสตั้งแต่เดินทางออกจากสุวรรณภูมิ
นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต ว่า ในช่วงปีงบประมาณ 2557 ระหว่าง ต.ค.56-ปัจจุบัน (14 มี.ค.) พบว่า ในส่วนของด่านศุลกากรภูเก็ต ภายใต้การสั่งการของอธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังตรวจสอบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมลักลอบขนยาเสพติดผ่านเข้ามาทางท่าอากาศยานภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยประสานความร่วมมือกับฝ่ายสืบสวนปราบปราม ด่านศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมา ทางศุลกากร สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขนยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้แล้ว 5 ราย โดยรายล่าสุด เป็นการจับกุมของเจ้าหน้าที่สืบสวน และปราบปราม ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรภูเก็ต ร่วมกันจับกุม น.ส.ภรณ์พัทธ์ วัฒนะชัยเสน อายุ 37 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ หนัก 2 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท ซุกซ่อนในกระเป่าเดินทาง ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรงานสืบสวนฯ สืบทราบว่า จะมีหญิงชาวไทยลักลอบขนยาเสพติดเข้าไทยผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต หลังมีการตรวจสอบพบว่าหญิงสาวรายดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศไทยทางสนามบินสุวรรณภูมิ จึงเฝ้าติดตามเบาะแส
จนเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 23.30 น.พบ น.ส.ภรณ์พัทธ์ วัฒนะชัยเสน เดินทางมาจากฮ่องกง ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 2965 ลักษณะตรงกับที่สืบทราบ จึงแสดงตัวขอตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง พบห่อพลาสติกบรรจุวัตถุผลึกใสซ่อนไว้ที่ใต้หูจับด้านบนกระเป๋าเดินทาง จึงนำไปทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด ผลปรากฏว่า เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) จึงควบคุมตัวไปสอบสวน จากการสอบสวน น.ส.ภรณ์พัทธ์ ให้การยอมรับว่า รับจ้างจากเพื่อนหญิงไทยที่มีสามีเป็นชาวไนจีเรีย ให้ไปหิ้วกระเป๋าดังกล่าวมาจากเมืองกวางโจ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าประเทศไทยผ่านสนามบินภูเก็ต โดยได้จะรับค่าจ้างหลังจากนำของมาส่ง และจากการตรวจประวัติพบว่า น.ส.ภรณ์พัทธ์ เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดด้วย
เจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำผ่านประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมอีก 4 รายก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 56 เจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.ลาชาง ทางิ สัญชาติอินเดีย ของกลาง เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) น้ำหนัก 3,200 กรัม เดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316 เวลา 00.55 น. ต้นทางเมืองเดลี ประเทศอินเดีย ต่อเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงภูเก็ตเที่ยวบินที่ TG203 เวลา 10.00 น. ลักษณะการซุกซ่อนบรรจุในกล่องกระดาษใส่ใบชา จำนวน 11 กล่อง และภายในตะเข็บผ้าส่าหรี จำนวน 7 ผืน ปะปนมาในกระเป๋าเดินทาง
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2556 เจ้าหน้าที่จับกุม นายป๊อป ฟลอริน สัญชาติโรมาเนีย ของกลาง โคเคน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 3,165 กรัม สายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK8262 ของวันที่ 4 ธันวาคม 2556 เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เปลี่ยนเที่ยวบินที่ดูไบ ถึงภูเก็ต เที่ยวบินที่ EK378 วันที่ 6 ธันวาคม 2556 ลักษณะการซุกซ่อนบรรจุถุงพลาสติกดำ พันกับแกนหลอดริบบิ้นห่อด้วยฟอยล์ พันด้วยเทปกาวสีดำ และมีริบบิ้นพันอีกชั้น ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง
เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 เจ้าหน้าที่จับกุม นายเหงียน วันเทียะ สัญชาติ เวียดนาม ของกลาง เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 2,300 กรัม เดินทางโดยเที่ยวบิน CZ6093 จากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ถึงภูเก็ตวันที่ 1 มกราคม 2556 เวลา 01.40 น. ลักษณะการซุกซ่อน บรรุจถุงพลาสติกห่อหุ้มด้วยกระดาษคาร์บอนสีน้ำเงิน ซ่อนใต้แผ่นพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง
