ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตรวจเรื่องร้องเรียนการพังทลายของหน้าดินบริเวณฐานองค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี (พระใหญ่) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ฝั่งตำบลกะรน ด้วยเกรงว่าจะมีการพังทลายของหน้าดินไหลลงสู่บ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ด้านล่าง เบื้องต้นสั่งยุติการก่อสร้างบางจุดเสี่ยงรอตรวจสอบ
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเรื่องร้องเรียนการพังทลายของหน้าดินบริเวณฐานองค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี (พระใหญ่) บนยอดเขานาคเกิด ฝั่งตำบลกะรน หลังมีชาวบ้านร้องเรียนเกรงว่าจะมีการพังทลายของหน้าดินไหลลงสู่บ้านเรือนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่ด้านล่าง เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 57 ที่ผ่านมา ว่า ทางจังหวัดได้เข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยนายคำเพชร พัฒกอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ คงชุม หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ภูเก็ต เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ภก.2 (ภูเก็ต) ตัวแทนจากเทศบาลตำบลกะรน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสุพร วนิชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ศรัทธา 45 และเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลบริหารจัดการพื้นที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี (พระใหญ่) ร่วมตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ถนนด้านฝั่งกะรนนั้นมีความเสี่ยง และล่อแหลมที่ดินจะสไลด์ลงไปด้านล่าง และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ หรือเทศบาลฯ ทราบว่า การขุดตักหน้าดิน หรือสร้างกำแพงปูนก็ไม่ได้มีการขออนุญาต และก่อนหน้านี้ก็เคยมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการปลูกสิ่งปลูกสร้างในบริเวณดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และปัญหาในบริเวณดังกล่าวมีหน่วยงาน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น สำนักพระพุทธศาสนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม เทศบาลฯ เป็นต้น ซึ่งจะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาประชุมหารือ และหาแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งในส่วนของมูลนิธิฯ ในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของการทำนุบำรุงศาสนา แต่ก็ควรจะดำเนินการในขอบเขตที่กำหนด ไม่ใช่มีการขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ ดังนั้น เบื้องต้นต้องขอให้ทางมูลนิธิฯ ยุติการก่อสร้างใดๆ ไว้ก่อนจนกว่ามีการประชุมร่วมกัน และได้ข้อยุติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ด้านล่าง แต่หากยังมีการละเมิดก็จะได้ทำความเห็นไปยังกรมป่าไม้ในการจำกัดวง หรือพื้นที่ในการดำเนินการของมูลนิธิฯ ให้ชัดเจนตามความเหมาะสม