นครศรีธรรมราช - ตร.นครศรีธรรมราชตามจับผู้ต้องหาฆ่าคนตายต่อเนื่องหลังจ่อยิงสาว 2 ศพซ้อน เตรียมก่อเหตุอีกเหตุเบี้ยวหนี้ค่ายาเสพติด พบคดีติดตัวอื้อ สารภาพสิ้นการทวงหนี้เป็นลูกปืน 1 นัดเท่ากับค่าหนี้หนึ่งหมื่นบาท
วันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สมชาย บุญครบ ผกก.สภ.ลานสกา นำตัว นายนรินทร์ หรือม้าน้ำ จิตจำนอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 ม.4 ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และนายวรพันธ์ หรือโจ้ กรประสาท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้น 3 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนมาก ระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 1 ลูก ใบกระท่อม ชิ้นส่วนอาวุธปืน แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย หลังจากที่ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย เหตุเกิดเมื่อปลายเดือนมกราคม ต่อเนื่องเดือนกุมภาพันธ์ ตามลำดับ และเตรียมวางแผนที่จะก่อเหตุอีกหลายคดี
พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า โดยเฉพาะนายนรินทร์ หรือ “ม้าน้ำ” เป็นผู้ต้องหาหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาลถึง 4 คดีด้วยกัน ล้วนเป็นคดีร้ายแรงซึ่งมีคดีอาวุธสงคราม และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล แต่ปรากฏว่า นายนรินทร์ หรือม้าน้ำ ได้หนีประกันในชั้นศาล หลังจากนั้นได้มากบดานอยู่บนภูเขาในเขต อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และได้ตระเวนก่อเหตุทวงหนี้ยาเสพติด ถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงเป้าหมายจนเสียชีวิตไปแล้วถึง 2 ราย และเตรียมที่จะก่อคดีปล้นทรัพย์ในช่วงเช้าของวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรายหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่บนภูเขา เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปซุ่มรออยู่ตั้งแต่ 02.00 น. ก่อนย่ำรุ่ง จึงเข้าไปคุมตัวไว้ได้ พร้อมด้วยของกลาง ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุนั้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ไปทวงหนี้ จำนวน 2 หมื่นบาท โดยมีภาษาการทวงหนี้ในวงการว่าลูกปืน 1 นัดเท่ากับเงินหนึ่งหมื่นบาท โดยมีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์สังหาร ยืนยันว่า นายนรินทร์ เข้าไปหาเหยื่อก่อนที่จะเอ่ยปากขอลูกปืน 2 นัด แต่เหยื่อไม่ยอมให้จึงถูกจ่อยิงทันที ด้วยความโหดเหี้ยมโดยเมื่อยิงนัดแรก แม้ว่าเหยื่อจะเสียชีวิตทันที นายนรินทร์ ยังปลดปลอกกระสุนปืนออกจากปืนลูกซองสั้น จากนั้นบรรจุใหม่ก่อนยิงซ้ำอย่างใจเย็นก่อนที่จะหลบหนีโดยมีนายวรพันธ์ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
