ชาวภูเก็ตแห่ปิดบัญชีออมสิน ไม่พอใจปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.จ่ายหนี้ชาวนา(ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวภูเก็ตทยอยถอนเงิน และปิดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต เป็นจำนวนมาก จนธนาคารต้องจ่ายแคชเชียร์เช็คแทนเงินสด เพราะไม่มั่นใจหลังธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.จ่ายหนี้ชาวนา ขณะที่ ธ.ก.ส.สาขาภูเก็ต พนักงานแต่งชุดดำ และติดป้ายคัดค้านนำเงินช่วยโครงการรับจำนำข้าว

วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต มีประชาชนชาวภูเก็ตได้รับทราบข่าวที่ทางธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส.จำนวน 20,000 ล้านบาท ได้เดินทางมายังธนาคารตั้งแต่ช่วงเช้าที่ธนาคารเปิดทำการ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนต่อคิวเพื่อถอนเงินมากกว่าวันปกติ โดยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มั่นใจในสถานะทางการเงินของธนาคารออมสินหลังปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.จึงมาถอนเงินไปฝากกับสถาบันการเงินอื่นๆ แทน

ขณะที่พนักงานธนาคารออมสินบางราย ได้แต่งกายด้วยชุดดำเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยที่เอาเงินฝากของประชาชนไปปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.นำไปจ่ายค่ารับจำนำข้าวของรัฐบาล

นางสุขศรี ลิพอนพล อายุ 46 ปี ชาวภูเก็ต กล่าวว่า ที่มาถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน เพราะเมื่อช่วงเช้าวันนี้พ่อดูทีวีเห็นมีคนไปถอนเงินออกจากธนาคารออมสินเป็นจำนวนมาก ก็เลยให้ตนมาถอนเงินออกไปด้วย เพราะไม่มีความมั่นใจในธนาคารออมสิน และรัฐบาล รวมทั้งหากไม่ถอนเงินออกมากลัวว่า ธนาคารออมสิน จะไม่มีเงินมาจ่ายให้คนฝาก หลังจากปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. โดยในบัญชีของพ่อมีเงินอยู่ประมาณ 100,000 บาท ซึ่งได้รับเป็นเงินสด 10,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นแคชเชียร์เช็ค เพราะธนาคารได้กันเงินสดไว้สำหรับธุรกิจกรรมอื่นๆ

ด้านนายทูรย์ ขอสงวนนามสกุล พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต กล่าวว่า ไม่มีความมั่นใจในสภาพคล่องของธนาคารออมสินหลังจากที่ปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. ซึ่งได้ปิดบัญชีทั้งหมดที่มีทั้งเงินฝาก และสลากออมสิน ไปฝากไว้สถาบันการเงินอื่นๆ แทน เพราะกลัวว่าทางธนาคารจะไม่มีความสามารถในการจ่ายเงินคืนให้ผู้ฝากหลังจากนี้

ขณะที่ นายลม คลองยุทธ อายุ 63 ปี ชาวภูเก็ตกล่าวว่า ตนมีเงินในบัญชีกว่า 70,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บออมมาตลอดการทำงาน เพื่อไว้ใช้ในบั้นปลายของชีวิต แต่เมื่อธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส. จึงไม่มีความมั่นใจว่าหลังจากนี้ธนาคารจะสามารถจ่ายเงินคืนให้ตนได้หรือไม่

นายเชิดพงษ์ กาฬยานุพันธ์ ชาวภูเก็ตกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนนั่งดูทีวีเห็นคนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกไปถอนเงินออกจากธนาคารออมสินจำนวนมาก ตนจึงนั่งคิดอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงตัดสินใจออกมาถอนเงินไปฝากที่ธนาคารอื่นๆ ปิดบัญชีทั้งหมด เพราะไม่มั่นในธนาคารออมสินอีกแล้ว

นางนิยด อาชีวระงับโรค ลูกค้าของธนาคารกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาถอนเงินที่มีอยู่กับธนาคารจำนวน 4 บัญชี โดยจะปิดบัญชีทั้งหมด เนื่องจากไม่พอใจที่ธนาคารนำเงินไปปล่อยกูให้แก่ ธ.ก.ส.เพื่อใช้จ่ายให้แก่ชาวนา ทั้งยังไม่มั่นใจว่าธนาคารจะมีสภาพคล่องต่อ เพราะมีการปล่อยกู้ไปแล้วเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ นางญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้จัดการสาขาภูเก็ต ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ปกติในแต่ละวันสาขาภูเก็ตได้สำรองเงินเพื่อให้ประชาชนในการเบิกถอน 10 ล้านบาท แต่ในวันนี้ คนภูเก็ตออกมาถอนเงินจากธนาคารจำนวนมากตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา โดยได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับการทำธุรกรรมด้านอื่นๆ ทำให้คนที่มาถอนเงินบางส่วนได้รับแคชเชียร์เช็คแทนเงินสดกลับไป และในวันนี้ มีลูกค้ารายย่อยที่เคยนำเงินมากฝากตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึง 2 ล้านบาท ได้ทยอยมาถอนเงินออกไปตั้งแต่ช่วงเช้าที่เปิดทำการ โดยตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงมีลูกค้ามารอถอนเงินจำนวนมาก และได้ถอนออกไปแล้วประมาณ 50-60 ราย และหากลูกค้าไม่ต้องการแคชเชียร์เช็คก็ให้มาถอนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า อย่างไรก็ตาม ตนได้พยายามชี้แจงถึงความมั่นคงของธนาคารให้ลูกค้ารับทราบ แต่ลูกค้าก็ยังไม่มั่นใจ ยืนยันที่จะถอนเงินออกไปเพราะได้รับทราบข่าวทีวี

นางญดาภรณ์ ยังกล่าวว่า สำหรับธนาคารออมสินภูเก็ต มีอยู่ 13 สาขา ที่สาขาใหญ่ (สาขาภูเก็ต) มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ 6 พันล้านบาท ถึงแม้จะนำเงินบางส่วนไปปล่อยกู้ให้แก่ ธ.ก.ส.ก็จะไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนของธนาคารอย่างแน่นอน และสำหรับผู้ที่จะมาเบิกเงินออกจากบัญชีเงินฝาก หรือต้องการปิดบัญชีก็สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นสิทธิของลูกค้า ธนาคารก็จะทำให้ตามคำร้องขอซึ่งระบุไว้ตามกฎหมาย

ขณะที่บรรยากาศของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สาขาภูเก็ต พบว่ามีจำนวนลูกค้าเดินทางมาเป็นทำธุรกรรมปกติ บริเวณด้านหน้ามีการติดป้ายระบุว่า “ธ.ก.ส.จะไม่ใช้เงินฝากของประชาชนจ่ายโครงการจำนำข้าวอย่างเด็ดขาด” ขณะที่พนักงานมีการแต่งชุดดำเพื่อแสดงพลังคัดค้านการกู้เงิน และคัดค้านการนำเงินไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว

นายสิทธิพร เพ็ชรนุ้ย ผู้จัดการสาขาธนาคาร ธ.ก.ส.กล่าวว่า สำหรับที่ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาภูเก็ตลูกค้าเดินทางมาทำธุรกรรมเป็นปกติ มีลูกค้าเดินทางมาถอนเงิน และปิดบัญชีเพียง 1% เท่านั้น แต่ในส่วนของผู้ที่มาฝากกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยที่สาขาภูเก็ต ได้มีการแสดงจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่มีการนำเงินฝากของประชาชนจ่ายโครงการจำนำข้าวอย่างเด็ดขาดตั้งแต่เริ่มต้นเป็นข่าว ทำให้ขณะนี้มียอดเงินที่สามารถปล่อยกู้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดได้กว่า 200 ล้านบาท