ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โต้แถลงการณ์กลุ่ม PERMUS ระบุพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่พื้นที่สงคราม พร้อมประณามคนร้ายยิง-เผาศพสตรีในพื้นที่ปัตตานี เป็นคนไร้ศาสนา และแถลงผลการยึดค่ายปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่เทือกเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พบของกลางอื้อ ระบุคนร้ายก่อเหตุแล้วโยนความผิดให้แก่เจ้าหน้าที่
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มคนร้ายลอบยิงชาวบ้านซึ่งเป็นสุภาพสตรี ก่อนเผาทำลายศพในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ที่ผ่านมา ว่า กรณีดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่กลุ่มขบวนการฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ที่พวกเขาก่อเหตุขึ้น และโยนความผิดให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐ และหาความชอบธรรมโดยการตอบโต้ต่อทางเจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์
โดยเฉเพราะเหตุการณ์ที่ขึ้นเมื่อวานนี้ สังคมควรที่จะลุกขึ้นมาประณามอย่างจริงจัง เพราะว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และพฤติกรรมที่คนร้ายดำเนินการเมื่อวานนี้เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ทารุณ ไร้มนุษยธรรม การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าพวกที่ไร้ศาสนา แต่พยายามที่จะแอบอ้างและบิดเบือนศาสนา ในหลักคำสอนของศาสนาทุกศาสนา โดยเฉพาะในหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ในเรื่องของหลักคำสอนการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และการทำลายศพ ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดของศาสนาอย่างร้ายแรง
เพราะฉะนั้นถ้าได้ติดตามข้อมูลข่าวสารในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ากลุ่มขบวนการเขาพยายามที่จะฉกฉวยโอกาสจากการสร้านสถานการณ์ แล้วโยนว่าเป็นการกระทำของทางเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น กรณีของข่าว 3 ศพ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การออกข่าวของกลุ่มขบวนการมีลักษณะเหมือนกับได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ได้มีการออกข่าวไว้ล่วงหน้าว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำของทหาร ทั้งๆ ที่ขณะนี้ขบวนการยุติธรรมอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
“ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่าน ท่านแม่ทัพภาค 4 ก็มีการกำชับเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นสร้างความสะเทือนใจ ทุกคนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการนำบุคคลที่กระทำความผิดที่เรียกว่าคนที่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าเป็นใครก็ตามเพื่อนำมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะนี้ทางตำรวจก็อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะนำตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนั้นมาลงโทษ ก็อยากจะสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนว่า การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารปัจจุบันมีค่อนข้างมาก ก็อยากจะให้ใช้วิจารณญานอย่างรอบครอบ” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดค่ายปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่เทือกเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ที่ผ่านมาว่า กรณีดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของการปฏิบัติการทางทหาร อันนี้เป็นไปตามนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารบก ที่เน้นย้ำอยู่เสมอในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย การติดตามคนร้ายที่เคยกระทำความผิดมาลงโทษ เมื่อวานนี้ได้มีการลาดตระเวน และได้มีการปะทะกัน โดยเชื่อว่าคนร้ายก็จะได้รับบาดเจ็บเนื่องจากว่าพบรอยเลือด
หลังจากนั้น ก็ได้มีการขยายผลตามรอยเลือด และก็ได้ไปพบค่ายพักแรม สิ่งที่พบสามารถตอบโจทย์ให้แก่สังคมได้ค่อยข้างเยอะ เจ้าหน้าที่สามารถที่จะหยุดยั้งการก่อเหตุร้ายต่อพี่น้องประชาชน และสถานที่ด้วยการวางระเบิด เพราะว่าพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้วหลายลูก และพบอุปกรณ์ที่ประกอบวัตถุระเบิดเป็นจำนวนมหาศาล ในเรื่องนี้ก็จะสามารถป้องการพี่น้องประชาชนแก่ชีวิต และทรัพย์สินได้พอสมควร
“ในส่วนที่ 2 ก็คือ สามารถตอบโจทย์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็นว่า สิ่งที่คนร้ายเขาทำก็คือว่าจะพยายามที่จะแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่เสมอ แม้กระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ได้สามารถตรวจยึดเครื่องแต่งกายของทหารชุดลายพรางกว่า 10 ชุด และชุดแต่งกายของทหารพรานอีกเกือบ 20 ชุด ตรงนี้ก็สามารถสร้างความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนได้ว่า ในการก่อเหตุของคนร้ายที่ผ่านมา เขาก็พยายามแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ และก็มาก่อเหตุแล้วโยนความผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจผิด สร้างความเกลียดชังระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ ยังตรวจพบอุปกรณ์ในการผลิตป้ายผ้า อันนี้ก็ชี้ให้เห็นได้ว่า ในการก่อกวนที่ผ่านมาไม่ได้เป็นความต้องการของสังคม ไม่ได้เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน แต่เป็นเรื่องของกลุ่มคนเล็กๆ ที่เขาผลิตมาจากแหล่งเดียวกัน และก็ไปกระจายให้สังคมเห็นว่าทั่วทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีพี่น้องประชาชนลุกขึ้นมาติดป้ายผ้า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่พบเจออุปกรณ์ในการผลิตป้ายผ้า ทั้งสีสเปรย์ บล็อกสำหรับพิมพ์ป้ายผ้า เชื่อว่ากลุ่มนี้จะเตรียมการเพื่อลงมาก่อเหตุในพื้นที่ และก็มีการแขวนป้ายผ้าเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจจากสังคม และโยนความให้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา”โฆษก กอ.รมน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาท่านผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็ยังมีความเป็นห่วงต่อการปฏิบัติการในพื้นที่ ท่านก็ได้สั่งการผ่านการประชุมทางไกลขอชื่นชมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้เสียสละ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการดูแลตัวเองต้องปลอดภัยด้วย โดยขณะนี้มีบางกลุ่ม บางองค์กรพยายามที่จะเบี่ยงเบียนประเด็นในเรื่องของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่น แถลงการณ์ของกลุ่มสมัชชา สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือกลุ่ม PERMUS ว่า ให้คู่สงครามปฏิบัติอยู่ในกรอบของปฏิบัติการสากลของต่างชาติ
ในเรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนลงมาทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มาทำสงคราม เพราะพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่เป็นพื้นที่สงคราม แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ลงมา มาเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน มาเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น การที่บางกลุ่มบางองค์กร พยายามฉกฉวยโอกาสไปสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้แก่สังคม ก็อยากให้สังคมได้ใช้วิจารณญาณด้วย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ของประเทศไทยที่มีกฎหมาย และต้องบังคับใช้ทางกฎหมายด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ลงมาดำเนินการในพื้นที่
