สุราษฎร์ธานี - ประธานหอการค้าสุราษฎร์ธานี เผยเทศกาลตรุษจีนปีนี้ชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างคึกคัก คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท ด้าน ททท. ระบุยอดจองห้องพักแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลกว่าร้อยละ 70 ส่วนในเขตเมืองคึกคักน่าพอใจ
นายสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้า จ.สุราษฎร์ธานี เผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 31 มกราคม จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาฉลองตรุษจีนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีกันจำนวนมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของจังหวัดภาคใต้ตอนบน มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งบนบก และตามเกาะแก่งต่างๆ ที่สวยงามจำนวนมาก การเดินทางสะดวกไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ซึ่งมีสนามบินถึง 2 แห่ง คือ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี ต.หัวเตย อ.พุนพิน และท่าอากาศยานนานาชาติสมุย อ.เกาะสมุย หรือว่าจะเป็นการเดินทางทางบกโดยรถโดยสารประจำทาง รถไฟ หรือว่ารถยนต์ส่วนตัว ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามาฉลองตรุษจีนนั้นจะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวต่อตามสถานที่ท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก เขื่อนรัชชประภา หรือที่ได้รับสมญานามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเขตเมือง และอำเภอต่างๆ ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางเข้ามาพำนักในระยะสั้น
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีการจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก เป็นค่าซื้อของเซ่นไหว้ เงินแต๊ะเอีย หรืออั่งเปา ท่องเที่ยว ซื้อของขวัญ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเงินสะพัดในช่วงเทศกาลดังกล่าวกว่า 500 ล้านบาททีเดียว
นายประภาส อินทนปสาธน์ ผอ.ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี เผยว่า ถึงแม้จะมีการชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯ จะไม่ส่งกระทบต่อเทศกาลตรุษจีนทางภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานีซึ่งมีชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการมีสนามบินด้วยกันถึง 2 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินเชียงใหม่-เกาะสมุย บินไป-กลับ ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สทุกวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทางภาคเหนือที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเลเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากแหล่งท่องเที่ยวทางภูเขา อากาศหนาว มายังเกาะสมุย โดยใช้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่เพียง 1 ชั่วโมง 45 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงเกาะเต่าในช่วงนี้ คือ นักท่องเที่ยวชาวยุโรป และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย รองลงมายังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย นอกจากนั้น จะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ เจ้าของโรงแรมต่างๆ ปรากฏว่า ขณะนี้มียอดจองห้องพักที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จำนวนร้อยละ 70 จากห้องพักจำนวนประมาณเกือบ 4 หมื่นห้อง ส่วนที่พักในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก และเขื่อนรัชชประภา ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวแห่จองห้องพักแล้วกว่าร้อยละ 80 ส่วนในเขตตัวเมือง ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมกว่า 25 แห่ง จำนวนห้องพักประมาณ 2,600 ห้อง ถือว่ายอดจองอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ คาดว่าเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีเงินสะพัดในพื้นที่หลายร้อยล้านบาทอย่างแน่นอน