สุราษฎร์ธานี - พบพระเครื่องโบราณ “ขุนแผน” ศิลปะอยุธยา ถูกฝั่งใต้ต้นโพธิ์วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร (อารามหลวง) จ.สุราษฎร์ธานี คาดอายุกว่า 500 ปี วัดเก็บรักษาเพื่อเป็นประโยชน์ในการทำนุบำรุงพระศาสนา
พระครูมหาเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร (อารามหลวง) และนายกิตติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ร่วมตรวจสอบพระเครื่อง “ขุนแผน” จำนวน 50 องค์ ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดพระบรมธาตุไชยา หลังจากขุดพบพระเครื่องชุดนี้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ที่วัดต้องการขุดออกเพื่อดำเนินการพัฒนาปรับปรุงวัด ทำให้พบพระเครื่องดังกล่าวบรรจุในหม้อดินขนาดเล็ก ถูกฝั่งตรงจุดที่ขุดต้นโพธิ์ อยู่ทางด้านขวามือขององค์พระธาตุ ห่างจากตัวองค์พระธาตุประมาณ 200-300 เมตร เมื่อมองจากจุดที่พบจะตรงกับองค์พระธาตุ แต่เยื้องทางด้านหลังเล็กน้อย
นอกจากนั้น บริเวณที่พบยังมีซากของก้อนอิฐโบราณอีกด้วย สำหรับพระที่ขุดพบมีขนาดประมาณ 1.30 นิ้ว มีดินติดแข็งที่ตัวองค์พระ เมื่อล้างออกพบว่าตัวองค์เป็นดินเผา ชุบทอง บางองค์เป็นกระเบื้อง โดยมีส่วนอำเภอไชยา ส่วนพิพิทธภัณฑสถานไชยา นายกเทศมนตรี เทศบาลบาลตำบลพุมเรียง ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจนับเพื่อร่วมดูแลพระชุดนี้
พระครูมหาเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยา กล่าวว่า ช่วงนี้ทางวัดได้มีการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมที่ได้รับงบประมาณจาก ครม.สัญจร เมื่อประชุมที่เกาะสมุย เนื่องจากน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เกรงว่าองค์พระธาตุจะชำรุด จึงได้สร้างกำแพงกั้นที่ริมคลองไชยาไม่ให้น้ำไหลเข้าวัดในช่วงน้ำหลาก ทำให้มีการขุดพื้นที่หลายจุด ส่วนพระเครื่องขุดพบขณะที่มีการขุดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่หน้าโรงฉัณออกเพื่อปรับปรุงพื้นที่ใช้ประโยชน์ ทำให้เจอพระเครื่องชุดนี้
ซึ่งจากการตรวจสอบ นายกิตติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา คาดว่า พระขุนแผนชุดนี้เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยดูจากภาชนะที่ใส่เป็นหม้อดินที่เคยขุดพบในพื้นที่บ่อยครั้ง ในส่วนองค์พระก็เป็นดินเผา ก่อนนำมาชุบสีให้เป็นสีทอง และบางองค์ก็เป็นลักษณะกระเบื้อง เหมือนกระเบื้องหลังคาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งเชื่อว่าพระชุดนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 500 ปี
สำหรับพระเครื่องที่ขุดพบทางวัด และพิพิธภัณฯ สันนิษฐานว่า น่าจะถูกฝังโดยคณะช่างที่เข้าบูรณะวัดในช่วงกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดหัวเมืองชั้นนอกของกรุงศรีอยุธยา มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี ตั้งแต่สมัยศรีวิชัย เนื่องจากองค์พระธาตุเป็นศิลปะสมัยศรีวิชัย แต่ศิลปะรอบนอกเป็นงานศิลปะสมัยอยุธยา เชื่อว่าในช่วงอยุธยาได้มีการบรูณะวัดครั้งใหญ่ และพระชุดนี้น่าจะถูกเคลื่อนย้ายมาจากกรุงศรีฯ เนื่องจากไม่มีบันทึกว่าเคยขุดพบพระเครื่องขุนแผนในพื้นที่ภาคใต้มาก่อน ทางวัดจะเป็นผู้เก็บรักษา ก่อนปรึกษากับกรรมการวัดเพื่อดำเนินการ ให้เกิดประโยชน์แก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป
พระครูมหาเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร (อารามหลวง) และนายกิตติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ร่วมตรวจสอบพระเครื่อง “ขุนแผน” จำนวน 50 องค์ ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดพระบรมธาตุไชยา หลังจากขุดพบพระเครื่องชุดนี้ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ที่วัดต้องการขุดออกเพื่อดำเนินการพัฒนาปรับปรุงวัด ทำให้พบพระเครื่องดังกล่าวบรรจุในหม้อดินขนาดเล็ก ถูกฝั่งตรงจุดที่ขุดต้นโพธิ์ อยู่ทางด้านขวามือขององค์พระธาตุ ห่างจากตัวองค์พระธาตุประมาณ 200-300 เมตร เมื่อมองจากจุดที่พบจะตรงกับองค์พระธาตุ แต่เยื้องทางด้านหลังเล็กน้อย
นอกจากนั้น บริเวณที่พบยังมีซากของก้อนอิฐโบราณอีกด้วย สำหรับพระที่ขุดพบมีขนาดประมาณ 1.30 นิ้ว มีดินติดแข็งที่ตัวองค์พระ เมื่อล้างออกพบว่าตัวองค์เป็นดินเผา ชุบทอง บางองค์เป็นกระเบื้อง โดยมีส่วนอำเภอไชยา ส่วนพิพิทธภัณฑสถานไชยา นายกเทศมนตรี เทศบาลบาลตำบลพุมเรียง ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจนับเพื่อร่วมดูแลพระชุดนี้
พระครูมหาเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุไชยา กล่าวว่า ช่วงนี้ทางวัดได้มีการสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมที่ได้รับงบประมาณจาก ครม.สัญจร เมื่อประชุมที่เกาะสมุย เนื่องจากน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เกรงว่าองค์พระธาตุจะชำรุด จึงได้สร้างกำแพงกั้นที่ริมคลองไชยาไม่ให้น้ำไหลเข้าวัดในช่วงน้ำหลาก ทำให้มีการขุดพื้นที่หลายจุด ส่วนพระเครื่องขุดพบขณะที่มีการขุดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่หน้าโรงฉัณออกเพื่อปรับปรุงพื้นที่ใช้ประโยชน์ ทำให้เจอพระเครื่องชุดนี้
ซึ่งจากการตรวจสอบ นายกิตติ ชินเจริญธรรม หัวหน้าพิพิทธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา คาดว่า พระขุนแผนชุดนี้เป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยดูจากภาชนะที่ใส่เป็นหม้อดินที่เคยขุดพบในพื้นที่บ่อยครั้ง ในส่วนองค์พระก็เป็นดินเผา ก่อนนำมาชุบสีให้เป็นสีทอง และบางองค์ก็เป็นลักษณะกระเบื้อง เหมือนกระเบื้องหลังคาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งเชื่อว่าพระชุดนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 500 ปี
สำหรับพระเครื่องที่ขุดพบทางวัด และพิพิธภัณฯ สันนิษฐานว่า น่าจะถูกฝังโดยคณะช่างที่เข้าบูรณะวัดในช่วงกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดหัวเมืองชั้นนอกของกรุงศรีอยุธยา มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี ตั้งแต่สมัยศรีวิชัย เนื่องจากองค์พระธาตุเป็นศิลปะสมัยศรีวิชัย แต่ศิลปะรอบนอกเป็นงานศิลปะสมัยอยุธยา เชื่อว่าในช่วงอยุธยาได้มีการบรูณะวัดครั้งใหญ่ และพระชุดนี้น่าจะถูกเคลื่อนย้ายมาจากกรุงศรีฯ เนื่องจากไม่มีบันทึกว่าเคยขุดพบพระเครื่องขุนแผนในพื้นที่ภาคใต้มาก่อน ทางวัดจะเป็นผู้เก็บรักษา ก่อนปรึกษากับกรรมการวัดเพื่อดำเนินการ ให้เกิดประโยชน์แก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไป
