ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์พัฒนาและบำรุงทางน้ำที่ 3 กรมเจ้าท่า ลงภูเก็ต จัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนโครงการขุดลองและรักษาร่องน้ำทางเดินเรือ รองน้ำคลองเกาะแก้ว จ.ภูเก็ต (ศูนย์กลางมารีนาโลก) เสนอ 2 ทางเลือกขุดลอกร่องน้ำเก่า-เปิดร่องน้ำใหม่ ย้ำทำเพื่อแก้ปัญหาร่องน้ำตื้นเขิน ขณะที่ชาวประมงจี้ให้ขุดลอกร่องน้ำเดิม เหตุเปิดร่องน้ำไม่กระทบวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน
วันนี้ (23 ม.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน โครงการขุดลอกและรักษาร่องน้ำทางเดินเรือ ร่องน้ำเกาะแก้ว จ.ภูเก็ต (ศูนย์กลางมารีนาโลก) ซึ่งศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ กรมเจ้าท่า จัดขึ้น ที่ห้องประชุมรอยัล มารีน่า ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนายสมเกียรติ เขียวย้อย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว ภาคเอกชนเข้าร่วม
นายสมเกียรติ เขียวย้อย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 กล่าวว่า โครงการขุดลอกร่องน้ำคลองเกาะแก้ว ได้มีการผลักดันมานานแล้ว เนื่องจากร่องน้ำบริเวณดังกล่าวมีความตื้นเขิน และเป็นอุปสรรคในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือยอชต์ขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีท่าจอดเรือยอชต์ จำนวน 2 แห่ง คือ โบ๊ทลากูน และรอยัลมารีน่า นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มประมงพื้นบ้าน
ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการขุดลอกร่องน้ำมาแล้ว ระยะทางในการขุดลอกนั้นมี 2 ช่วง คือ ช่วงที่อยู่ภายในคลองเกาะแก้ว ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร และช่วงที่อยู่นอกคลอง โดยขณะนี้ทางศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 ได้ออกแบบการขุดลอกรองน้ำดังกล่าวไว้ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก ขุดลอกในส่วนของร่องน้ำเดิม ซึ่งมีระยะทางที่คดเคี้ยวมีความยาวของระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร และแนวทางที่ 2 คือ การขุดลอกร่องน้ำใหม่ โดยจะขุดลอกให้เป็นเส้นตรง ใช้ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ซึ่งในการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียตัดสินใจเลือกเส้นทางในการดำเนินการ จึงได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินโครงการขุดลอกร่องน้ำในครั้งนี้จะใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 12 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม จากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นชอบให้ขุดลอกร่องน้ำเดิน เช่น นายอับดุลลา เสมศักดิ์ ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 4 ต.เกาะแก้ว กล่าวว่า แนวร่องน้ำใหม่ที่ทางศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 เสนอนั้น เป็นการเปิดร่องน้ำใหม่ซึ่งจะกระทบต่อวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านในบริเวณนั้น ซึ่งมีทั้งที่ออกเรือจับปลา และเลี้ยงหอยในกระชัง หากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลือกที่จะลุดลอกร่องน้ำใหม่ ชาวประมงจะประท้วงแน่นอน เพราะฉะนั้นเห็นควรให้ขุดลอกร่องน้ำที่มีอยู่แล้ว
ขณะที่นายวัฒนา ถิ่นเกาะแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.เกาะแก้ว กล่าวว่า การขุดลอกร่องน้ำมีผลกระทบต่อชาวบ้านแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องของการทิ้งดินตะกอนที่ขุดลอกขึ้นมาเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน ร่วมทั้งดูแลเรื่องของสภาพป่าชายเลนด้วย
ด้าน นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปิดร่องน้ำใหม่ เพราะจะทำให้มีผลกระทบเกิดขึ้นต่อชาวบ้าน เพราะฉะนั้นการขุดลอกร่องน้ำควรที่จะขุดลอกร่องน้ำเดิมมากว่า เพราะแนวใหม่ขุดแล้วอาจจะอยู่ได้ไม่ได้ และอาจจะไม่สอดรับกับกระแสน้ำที่ไหลอยู่ในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สรุปการขุดลอกร่องน้ำที่บริเวณคลองเกาะแก้ว จะดำเนินการขุดลอกร่องน้ำเดิม ซึ่งจะขุดร่องน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ในช่วงที่น้ำลงต่ำสุด จะทำให้เรือขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึกประมาณ 2 เมตร สามารถเข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ตลอดเวลา และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เรือต่างๆ ที่เข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวเรือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินการขุดลอกจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 6 เดือน
วันนี้ (23 ม.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน โครงการขุดลอกและรักษาร่องน้ำทางเดินเรือ ร่องน้ำเกาะแก้ว จ.ภูเก็ต (ศูนย์กลางมารีนาโลก) ซึ่งศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ กรมเจ้าท่า จัดขึ้น ที่ห้องประชุมรอยัล มารีน่า ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนายสมเกียรติ เขียวย้อย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว ภาคเอกชนเข้าร่วม
นายสมเกียรติ เขียวย้อย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 กล่าวว่า โครงการขุดลอกร่องน้ำคลองเกาะแก้ว ได้มีการผลักดันมานานแล้ว เนื่องจากร่องน้ำบริเวณดังกล่าวมีความตื้นเขิน และเป็นอุปสรรคในการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือยอชต์ขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีท่าจอดเรือยอชต์ จำนวน 2 แห่ง คือ โบ๊ทลากูน และรอยัลมารีน่า นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มประมงพื้นบ้าน
ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการขุดลอกร่องน้ำมาแล้ว ระยะทางในการขุดลอกนั้นมี 2 ช่วง คือ ช่วงที่อยู่ภายในคลองเกาะแก้ว ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร และช่วงที่อยู่นอกคลอง โดยขณะนี้ทางศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 ได้ออกแบบการขุดลอกรองน้ำดังกล่าวไว้ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรก ขุดลอกในส่วนของร่องน้ำเดิม ซึ่งมีระยะทางที่คดเคี้ยวมีความยาวของระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร และแนวทางที่ 2 คือ การขุดลอกร่องน้ำใหม่ โดยจะขุดลอกให้เป็นเส้นตรง ใช้ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ซึ่งในการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียตัดสินใจเลือกเส้นทางในการดำเนินการ จึงได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินโครงการขุดลอกร่องน้ำในครั้งนี้จะใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 12 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือนมีนาคมนี้
อย่างไรก็ตาม จากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เห็นชอบให้ขุดลอกร่องน้ำเดิน เช่น นายอับดุลลา เสมศักดิ์ ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 4 ต.เกาะแก้ว กล่าวว่า แนวร่องน้ำใหม่ที่ทางศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 3 เสนอนั้น เป็นการเปิดร่องน้ำใหม่ซึ่งจะกระทบต่อวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านในบริเวณนั้น ซึ่งมีทั้งที่ออกเรือจับปลา และเลี้ยงหอยในกระชัง หากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลือกที่จะลุดลอกร่องน้ำใหม่ ชาวประมงจะประท้วงแน่นอน เพราะฉะนั้นเห็นควรให้ขุดลอกร่องน้ำที่มีอยู่แล้ว
ขณะที่นายวัฒนา ถิ่นเกาะแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.เกาะแก้ว กล่าวว่า การขุดลอกร่องน้ำมีผลกระทบต่อชาวบ้านแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องของการทิ้งดินตะกอนที่ขุดลอกขึ้นมาเพื่อไม่ให้กระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน ร่วมทั้งดูแลเรื่องของสภาพป่าชายเลนด้วย
ด้าน นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการเปิดร่องน้ำใหม่ เพราะจะทำให้มีผลกระทบเกิดขึ้นต่อชาวบ้าน เพราะฉะนั้นการขุดลอกร่องน้ำควรที่จะขุดลอกร่องน้ำเดิมมากว่า เพราะแนวใหม่ขุดแล้วอาจจะอยู่ได้ไม่ได้ และอาจจะไม่สอดรับกับกระแสน้ำที่ไหลอยู่ในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สรุปการขุดลอกร่องน้ำที่บริเวณคลองเกาะแก้ว จะดำเนินการขุดลอกร่องน้ำเดิม ซึ่งจะขุดร่องน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ในช่วงที่น้ำลงต่ำสุด จะทำให้เรือขนาดใหญ่ที่กินน้ำลึกประมาณ 2 เมตร สามารถเข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ตลอดเวลา และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เรือต่างๆ ที่เข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวเรือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินการขุดลอกจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 6 เดือน