ยะลา - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ลงเยี่ยมกำลังพลจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝากเตือนทุกฝ่ายให้มีสติในการทำหน้าที่ และระวังข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย ระบุทหารไม่ได้อยู่ข้างใดข้างหนึ่ง แต่อยู่ในจุดที่เหมาะสม ทำหน้าที่ดูแลปกป้องคนไทยทุกหมู่เหล่าให้ปลอดภัย
วันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาติดตาม และดูแลงานในฐานะรอง ผอ.รมน. และก็ถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานนี้ ก็ปรับหลายๆ อย่างในปี 2556-2557 ตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป ตั้งแต่เรื่องการจัดทำโครงสร้างเพิ่มขึ้น ให้มีกองกำลังถิ่นเพิ่มมากขึ้น มีการครอบคลุมทางยุทธการ แบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน แบ่งความรับผิดชอบ การทำแผนงานร่วมทั้งงานด้านความมั่นคง และการด้านการพัฒนาทาง ศอ.บต.
และในส่วนของจุดคณะกรรมการขับเคลื่อนในส่วนของกระทรวงปกครองต่างๆ ทั้ง 17 กระทรวงต่างๆ อีก ตามหน่วยงานก็ได้มีคณะกรรมการทางทหารไปประสานทุกเรื่องเพื่อที่จะไห้งานขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ให้เดินขับเคลื่อนไปด้วยดี ความเท่าเทียบกันคู่ขนานไปด้วยดี ถ้าต่างคนต่างทำมันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่งานจะประสบความสำเร็จได้ ทั้งงานด้านความมั่นคง และงานการพัฒนา วันนี้ที่เน้นมากที่สุด คือ การสร้างความมั่นใจ และก็มีคนเข้ามาสู่ในกระบวนการพาคนกลับบ้าน และก็มีผู้เห็นต่าง ผู้นำต่างๆ หลายๆ คนหลายๆ ฝ่ายกลับเข้ามามีส่วนร่วมของเราก็คงทราบดีอยู่แล้ว ก็เลยออกมาทำความเข้าใจกันร่วมกับท่านแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะกรรมการอย่างต่อเนื่อง
ตนเห็นว่ามีความก้าวหน้าในส่วนนี้ ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ข้อหนึ่ง ในการสร้างสภาวะแวดล้อมความปลอดภัย สร้างสภาวะแวดล้อมมุ่งไปสู่การพูดคุยกัน และให้ความสนใจตั้งคณะกรรมการควบคุมขึ้นมา ซึ่งจะให้เกิดในเร็ววันนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ผบ.ทบ.กล่าวต่อว่า โครงสร้างของผู้เห็นต่างมีความซับซ้อนพอสมควร ซึ่งก็ได้มีการติดตาม และสอบสวนค้นคว้าความจริงมาตลอด เพียงแต่ว่ามันไม่เหมือนโครงสร้างการจัดของเรา แต่อย่างไรก็ตาม เราก็พยายามทุกมิติ ในต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งพื้นที่ที่ห่างไกลเราก็ได้มีการปรึกษาหารือกับประเทศเพื่อนบ้านหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน คืออย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าวันนี้ทั้งโลกมีความวุ่นวาย ทั้งโลกมีความสับสน ทั้งโลกมีความเห็นต่างกันมาก ประชาชนในแต่ละประเทศ และประเทศเราก็เช่นเดียวกัน อาจจะเป็นสมัยใหม่ด้วย หรือทางโซเชียลมีเดียก็เจริญขึ้น ข่าวสารต่างๆ ก็ออกมาไม่ชัดเจน ใครจะเขียนความจริงก็ได้ไม่จริงก็ได้ เหตุนี้ทำให้สับสน การทำงานด้านการข่าวต้องใช้เวลามากกว่าปกติ
เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีการกลั่นกรอง และการวิเคราะห์ดำเนินการวงรอบข่าวกรองให้มากขึ้น มันก็เลยไม่ทันเวลาไม่ทันเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นขอร้องว่าใครก็ตามที่ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่ หรือเข้าไปทำอะไรต่างๆ โดยคิดว่ามันสนุกสนานซึ่งโดยรวม วันนี้ลองเปิดโซเชียลมีเดีย ก็จะเจออย่างนั้นจริงๆ มันก็อันตรายมากสำหรับประเทศไทย แต่ตนคิดว่ามันไม่จริง มันแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่มีความจริง เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนไตร่ตรอง ไม่เช่นนั้นแล้วถ้ามันผ่านไปแล้วเมื่อเราเชื่อเราก็ลงความเห็นก็กลายเป็นชอบคนนั้น เกลียดคนนี้ ตามนั้นไปด้วย
ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวอีกว่า สำหรับตนเองนั้นคิดว่าคนที่ทำต้องรับผิดชอบในอนาคตถ้ามีการตรวจสอบภายหลังขึ้นมา หรือเมื่อสถานการณ์ยุติไปแล้วมันก็ต้องมีการตรวจสอบว่า ใครทำอะไรบ้าง วันนี้สิ่งที่ทหารทำหน้าที่อยู่ก็ทำให้มันดีที่สุด ทั้งงานชายแดนทั้ง 7 กองกำลัง งานสนับสนุนการแก้ปัญหาภาคใต้ โดยเฉพาะในเรื่องของการต่อสู้กับภัยคุกคามไม่ว่าจะเป็นก่อสถานการณ์ แรงงานต่างด้าวต่างๆ ก็ทำทุกงานทุกหน้าที่อยู่ วันนี้ก็มีการรักษาระบบความเรียบร้อยกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอีกด้วย ก็ทำทุกบทบาททุกหน้าที่ที่มีอยู่ไม่ได้ทำในฐานะว่าอยู่ข้างไหนข้างใดทั้งสิ้น เพราะทหารก็จะอยู่ในจุดที่เหมาะสม และทำหน้าที่ที่จะหยุดยั้งดูแล อะไรที่มันจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะในวันนี้หรือในอนาคต ก็ทำหน้าที่ดูแลปกป้องคนไทยทุกคนทุกหมู่เหล่าให้ปลอดภัยไม่มีฝั่งไม่มีฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นก็จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย
“ผมอยากจะฝากพี่น้องประชาชนว่า ขอให้มีสติในการทำหน้าที่ของประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีสติในการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้ตัวรู้คิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองปลอดภัย อยากจะเตือนให้ทุกคนรู้ไว้เท่านั้น” ผบ.ทบ.กล่าวทิ้งท้าย