จากกลุ่มนักศึกษาผู้มีความฝันเดียวกัน ในการเป็นนักดนตรีที่สร้างรอยยิ้ม และความสุขให้แก่ผู้ชม ใครจะคาดคิดว่า ณ วันนี้ วงดนตรีน้องใหม่ที่มีชื่อว่า “วงบุญรอด” ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของรุ่นพี่รุ่นน้องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) จะมาได้ไกลในถนนสายดนตรี กับรางวัลชนะเลิศ The Band Thailand เราลองมาฟังความรู้สึกของสมาชิกทั้ง 9 คน แห่งวงบุญรอด กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
ด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการแข่งขันแต่ละรอบ ซึ่งโชว์ของพวกเขาทุกครั้งสามารถเรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างล้นหลาม ประกอบกับการทำงานเป็นทีม ทำให้ชนะใจคนดูทั่วประเทศ จนได้รับคะแนนโหวตเป็นอันดับ 1 คว้ารางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง “ดู เอ ดอท” ในเครือเวิร์คพอยท์ ซึ่งสมาชิกในวงทั้ง 9 คน แม้จะไม่ได้มาจากโรงเรียนมัธยมแห่งเดียวกันทั้งหมด แต่ก็เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน คือ อาจารย์บุญรัตน์ ศรีวรานนท์ ศิษย์เก่าวิทยาลัยครูสงขลา ปัจจุบันสอนอยู่ที่โรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับที่มาของชื่อวงบุญรอดนั้น วัชรพงศ์ หมวดเมือง “ไทด์” มือเบส เล่าว่า สมาชิกในวงอยากได้ชื่อแบบไทยๆ และเป็นชื่อที่มีความหมายมงคล จึงให้พระตั้งชื่อวงให้ และชื่อนี้ก็เป็นมงคลแก่ทุกคนในวงจริงๆ เพราะทำให้วงบุญรอด ประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลชนะเลิศ The Best Of POP จากแข่งขันรายการ The Band Thailand ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 100 วง เข้าร่วมชิงชัย ซึ่งจุดเด่นของวงบุญรอดอยู่ที่ลูกเล่นในการแสดง และเสื้อผ้าที่จัดเต็มทุกครั้ง อย่างชุดที่ใส่ในรอบชิงชนะเลิศที่พวกตนให้ชื่อชุดการแสดงครั้งนี้ว่า คอนเสิร์ตคนจน ก็สื่อถึงความขาดแคลนของเด็กในชนบท ที่บางคนไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อเสื้อผ้าดีๆ ใส่
“การแสดงในแต่ละรอบ พวกเราช่วยกันระดมไอเดีย และช่วยกันเลือกเสื้อผ้าเพื่อให้โชว์ของพวกเราออกมาดีที่สุด ซึ่งเราเองก็ไม่คาดหวังว่าจะได้แชมป์ แค่เข้ารอบก็ดีใจมากแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ได้มาจึงเหนือความคาดหมายมาก รู้สึกภูมิใจที่มาได้ไกลขนาดนี้ คิดว่าเป็นเพราะความสามัคคีของทุกคนในวงที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และช่วยเหลือกันเหมือนพี่น้อง” มือเบส วงบุญรอด กล่าว
ด้าน ธีรยุทธ บุญชิต “ต่อ” คีย์บอร์ด กล่าวว่า ความสำเร็จที่พวกเราได้รับถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต แม้หนทางที่ได้มาจะไม่ราบรื่น หรือสวยงาม ทั้งในเรื่องของการขาดงบประมาณ การขาดเรียน และการใช้ชีวิตที่ต้องเดินทางไกลจากบ้านไปทำการแข่งขันที่กรุงเทพฯ แต่ผลที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่พวกเราต้องแลกมา ซึ่งความภูมิใจจากการได้รับรางวัลชนะเลิศ ไม่ได้เกิดขึ้นกับสมาชิกในวงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง มรภ.สงขลา ครอบครัว และการได้เป็นตัวแทนของลูกหลานชาวใต้ไปแข่งขันในระดับประเทศ จึงอยากฝากไว้ว่าวิชาดนตรีไม่ใช่แค่เต้นกินรำกินอย่างเดียว แต่ยังมีคุณค่ากว่านั้นมากมาย
จิระนันท์ ขวัญเพชร์ “หนึ่ง” มือกลองชุด เจ้าของหุ่นตุ้ยนุ้ย กล่าวเสริมว่า สมาชิกในวงหุ่นดี และเต้นพลิ้วทุกคน พวกเรารู้สึกมีความสุขที่ได้เล่นดนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่รัก และรู้สึกภูมิใจที่ได้กลับมารวมตัวกันจนสามารถบรรลุถึงเป้าหมาย แม้จะมีอุปสรรคบ้างแต่สุดท้ายแล้วพวกเราก็ช่วยกัน ทำให้เดินทางมาถึงวันแห่งความสำเร็จ
ขณะที่ ภูวนาถ ยุโสะ “อู๊ด” มือทรอมโบน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกันได้มาอยู่ด้วยกัน พวกเรามีความคล้ายคลึงกันในเรื่องสไตล์ มีความหล่อที่เป็นเอกลักษณ์ มีใจรักในดนตรี และมีความเอื้ออาทรต่อกันแบบพี่น้อง
วรุตม์ แร่ทอง “กอล์ฟ” แซกโซโฟน กล่าวบ้างว่า แม้ตนจะเป็นน้องสุดท้องของวง แต่ในการทำงานทุกคนก็เปิดโอกาสให้ร่วมแชร์ความคิด อาจมีบ้างที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ทุกคนยึดหลักเหตุผล และความเป็นพี่น้องที่ต่างก็รัก และปรารถนาดีต่อกัน แม้ตนจะเรียนในคณะครุศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่สาขาดนตรีเหมือนพี่ๆ ในวง แต่ก็มีใจรักดนตรี และเสียงเพลง ซึ่งการได้เข้ามาอยู่ในวงบุญรอด ทำให้ตนมีความสุข และได้มิตรภาพที่เพิ่มมากขึ้น
จักรินทร์ พิกุลงาม “เก็ต” ทรัมเป็ต กล่าวด้วยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ใช้สิ่งที่เรียนมาในด้านดนตรี และสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อยากให้น้องๆ เยาวชนได้ทำในสิ่งที่รัก และเดินไปตามความฝันของตัวเอง
ส่วน ธนพล นาควรรณ “จ๊อบ” นักร้องนำ กล่าวว่า ในฐานะที่พวกเราได้รับรางวัลชนะเลิศ อยากฝากไปถึงน้องๆ รุ่นหลังที่มีใจรักในดนตรี ขอให้ทำสิ่งที่ตัวเองรักให้เต็มที่ ไม่ใช่แข่งกับคนอื่น แต่เป็นการแข่งกับตัวเอง และขอให้ใช้ใจเล่น อย่างสมาชิกวงบุญรอดทุกคนต่างมีความฝันเดียวกัน คือ เดินทางสายดนตรี ซึ่ง ณ วันนี้พวกเราก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
ธนชัย หนูคง “ยุ้น” เพอร์คัตชัน กล่าวบ้างว่า ด้วยความพยายาม และการฝึกซ้อมอย่างหนักของทุกคน ทำให้พวกเราสามารถเดินตามฝันได้สำเร็จ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะตนและเพื่อนๆ ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมมากมายขนาดนี้
ปิดท้ายด้วย จิรธร สาระปลีก “บูม” มือกีตาร์ ที่กล่าวเสริมว่า ตอนนี้มีคนจำนวนหนึ่งที่รู้จักวงบุญรอด แต่เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ พวกเราจะพัฒนาตัวเองให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนทั่วประเทศได้รู้จักตัวตน และรักในความเป็นเรา สำหรับสมาชิกวงบุญรอด ความสนิทสนมกลมเกลียวของพวกเรามีมากกว่า 10 ปี จึงทำให้เล่นดนตรีกันแบบรู้ใจ เมื่อมาเรียนต่อที่ มรภ.สงขลา จึงได้ร่วมมือกันก่อตั้งวงบุญรอด ขึ้นมา และคนไทยทุกคนได้รู้จักวงดนตรีเล็กๆ ที่ชื่อวงบุญรอด
สำหรับกลุ่มคนผู้มีใจรักในดนตรีอย่าง “วงบุญรอด” การได้เดินตามฝันบนถนนสายดนตรี มีโอกาสได้ขับกล่อมเสียงเพลงเคล้าดนตรี และโชว์บนเวทีที่สร้างสรรค์ในแบบฉบับของพวกเขาให้โลกได้รับรู้ ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว