ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ-เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.ภูเก็ต ชาวบ้าน ระดมกำลังค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ในป่าหน้าชายหาดป่าหลาย หลังพบหัวกะโหลกมนุษย์เมื่อวานนี้ ล่าสุด พบชิ้นเนื้อ กระดูกซี่โครงเพิ่มเติมใกล้กับจุดที่พบหัวกะโหลก ขณะที่แม่ยังไม่อยากเชื่อว่ากะโหลก และชิ้นเนื้อที่พบเป็นของน้องเดียร์ ที่หายตัวไป ภาวนาให้ลูกยังมีชีวิตรอด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 ธ.ค.) พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง พ.ต.ท.วิษฐชาคม คำจำปา รองผู้กำกับการสถานีภูธรฉลอง พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิต รองผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร.ต.อ.ธาดา โสดารักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.ภูเก็ต นางจรูญ ทับแก้ว อายุ 45 ปี มารดาของ ด.ญ.ณัฐภา ทับแก้ว อายุ 6 ขวบ หรือน้องนาเดียร์ ซึ่งหายตัวไปจากหน้าวัดใต้ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งญาติๆ และชาวบ้านที่รู้ว่ามีการพบหัวกะโหลกมนุษย์ในป่าใกล้กับชายหาดป่าหลาย ม.3 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ระดมกำลังเข้าแถวเป็นหน้ากระดานเพื่อปูพรมค้นหาชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ยังสูญหายในบริเวณจุดที่พบหัวกะโหลก
ซึ่งการค้นหาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ยังไม่พบชิ้นส่วนเพิ่มเติม ทางญาติของน้องนาเดียร์ และผู้รู้จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียน ข้าว และน้ำดื่ม ไปวางยังจุดที่พบหัวกะโหลกของมนุษย์เมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่บริเวณใต้ต้นกระถินณรงค์ ห่างจากทางเดินเท้าประมาณ 10 เมตร พร้อมกับบนบานขอให้เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้ค้นหาชิ้นส่วนของมนุษย์พบ
หลังจากนั้น พ.ต.อ.อรุณ และ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ได้ระดมคนออกจากจุดค้นหา และวางแผนในการเดินค้นหาใหม่ โดยแต่ละคนเว้นช่องห่างกันประมาณ 1 เมตร และให้สังเกตเรื่องของกลิ่น และจุดที่มีแมลงวันตอม หลังจากนั้นกลับเข้าไปค้นหาแบบปูพรมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานก็พบชื้นส่วนของมนุษย์เพิ่มเติมในหลายจุด ในรัศมีประมาณ 20-30 เมตร จากจุดที่พบหัวกะโหลก ซึ่งทีทั้งซี่โครง ฟัน กระดูกเท้า และหนังหุ้มกระดูกเท้า โดยกระจัดกระจายไปรอบๆ บริเวณ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวกัดแทะจนชิ้นส่วนร่างกายแยกกันอยู่
ขณะที่ นางจรูญ ทับแก้ว มารดาของน้องนาเดียร์ กล่าวว่า น้องหายตัวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมา 15 วัน แล้ว ตัวเองยังไม่อยากเชื่อว่าหัวกะโหลกที่พบจะเป็นของน้องนาเดียร์ แต่รองเท้านั้นเหมือนของน้อง ส่วนกางเกงที่พบเมื่อวานยังดูไม่ออกว่าใช่หรือเปล่า เพราะติดดินโคลนทั้งหมด ซึ่งตนยังคิดว่าน้องยังต้องมีชีวิตอยู่ และหวังให้เป็นอย่างนั้น และตอนนี้ก็หวังให้หาน้องเจอไม่ว่าจะมาลักษณะไหนก็ตาม
ส่วนเมื่อวานที่ญาติๆ มาค้นหาในจุดนี้ก็เนื่องจากมีร่างทรงบอกมาว่าน้องนาเดียร์ ถูกขังอยู่ที่กระท่อมร้างในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นป่า และอยู่ใกล้ทะเล จึงระดมญาติๆ มาค้นหา ซึ่งมาถึงก็กระจายกำลังกันออกค้นหาจนกระทั่งเจอรองเท้า เจอหัวกะโหลก เส้นผม และฟัน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บชิ้นส่วนทั้งหมดไป และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากตนไปแล้วเพื่อส่งไปเปรียบเทียบกับหัวกะโหลก และเส้นผมที่เก็บได้ว่าเป็นของน้องนาเดียร์ หรือไม่
ขณะที่ ร.ต.อ.ธาดา ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนคดีนี้กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนหาข่าวมาโดยตลอด และมีการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในหลายๆ จุด แต่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุไปตามถนนสายหลักไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิด แต่หลังจากพบหัวกะโหลกมนุษย์เมื่อวานนี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน 100% ว่าเป็นหัวกะโหลกของน้องนาเดียร์ ที่หายตัวไป เพราะต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบยืนยันอีกครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เบาะแสที่จะสามารถสืบสวนได้มากขึ้น และจะมีการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายพาเด็กไป ขณะที่ชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวต่อไป
