ถังก๊าซปริศนาระเบิดหน้าร้านขายออกซิเจนกลางเมืองแปดริ้ว ดับสยองรับอรุณ 3 ศพ บาดเจ็บ 6 ราย สาหัส 2 ผบก.เผยรอพิสูจน์หลักฐานตรวจสาเหตุ ด้านผู้ว่าฯรุดเยี่ยมปลอบขวัญ ระบุกล้องจับภาพลูกค้าเปิดวาล์วให้เจ้าของร้านดู จากนั้นเกิดระเบิดตามมา เผยอาคารเสียหาย 11 หลังแต่มีประกันภัย รอตรวจให้ชัดเป็นก๊าซชนิดใดกันแน่ เพราะร้านเกิดเหตุขายแต่ออกซิเจน
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้(14 พ.ย.) ร.ต.ท.พร้อมพงษ์ เทพทับทิม ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุระเบิดที่ท้ายรถกระบะซึ่งจอดเยื้องกับร้าน "ศักด์ออกซิเย่น" ริมถนนมรุพงษ์ ต.หน้าเมือง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ
พบว่าอาคารไม้เก่าแก่ และอาคารพาณิชย์ 2 ฝั่งถนนถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย ถังออกซิเจนสูงประมาณ 1.5 เมตร บริเวณหน้าร้านศักด์ออกซิเย่นฉีกขาด ชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายในรัศมี 30-40 เมตร พบศพของผู้เสียชีวิตสภาพท่อนล่างแหลกเละไปเกือบครึ่งตัวที่ประตูเหล็กหน้าร้านค้าริมถนนฝั่งละ 1 ศพ ประกอบด้วย น.ส.ประเทือง บุญรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 13 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายสุรเดช สว่างอารมณ์ อายุ 30 ปีเศษ อาชีพขับรถกระบะเร่ขายเสื้อผ้าและลูกโป่ง และนายศักดิ์ ถาวรวงศ์ อายุ 69 ปี เจ้าของร้านศักด์ออกซิเย่น ถูกแรงระเบิดกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร สภาพร่างกายแหลกเหลว
ทั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร(เมืองฉะเชิงเทรา) 6 ราย โดยมีรถสามล้อถูกเพลิงไหม้ 1 คัน รถของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงถูกแรงระเบิดเสียหาย 5 คัน
สอบถามนายปองสิทธิ์ ถาวรวงษ์ อายุ 44 ปี บุตรชายนายศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเกิดกำลังนอนอยู่ที่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจึงลงมาดูจึง พบว่ามีเหตุระเบิดที่หน้าร้าน แต่ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยร้านของตนรับถังออกซิเจนที่บรรจุแล้วจากโรงงานมาวางขาย ผู้ซื้อต้องนำถังเปล่ามาปลี่ยน
ขณะที่นางสุภานันท์ สุขถนอม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/22 หมู่ 2 ต.บางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ญาติของน.ส.ประเทืองและนายสุรเดช ที่มาดูเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ตายน่าจะนำรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บพ 4340 ฉะเชิงเทรา มาจอดที่หน้าร้านและเรียกนายศักดิ์ เพื่อขอเปลี่ยนถังใหม่ไปอัดลูกโป่งขายในงานแห่พระองค์หลวงพ่อโสธร ที่จะมีขึ้นวันนี้จนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน เนื่องจากผู้ตายบ่นว่าถังที่นำไปเติมก๊าซไว้ล่วงหน้า อัดลูกโป่งแล้วไม่ลอย จึงมาเปลี่ยนถังใหม่
พล.ต.ต.เชิดชาย เสขะนันทน์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าถังออกซิเจนระเบิดได้อย่างไร ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อน
เวลา 15.15 น. นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติที่โรงพยาบาล โดยมีนพ.ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้ข้อมูลรายแรกเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี บาดเจ็บที่ใบหน้า หนังศีรษะ และขาขวาหัก นอนให้ออกซิเจนอยู่ภายในห้องปลอดเชื้อ รายที่ 2 นายสมชาย อายุ 15 ปี ชาวพม่า อยู่ในห้องผ่าตัด รายที่ 3 นางลักขณา สุธีพิเชษฐ์ภัณฑ์ อายุ 73 ปี แข้งซ้ายหัก ข้อเท้าขวาหัก เอ็นข้อเท้าขาขวาขาด อยู่ในห้องผ่าตัด รายที่ 4 นางอรพิน สุธีพิเชษฐ์ภัณฑ์ อายุ 69 ปี มีบาดแผลฉีกขาดที่ขาทั้งสองข้าง หนังศีรษะเปิด
อีก 2 ราย คือ นางจงกล อิ่มพรหม อายุ 48 ปี มีบาดแผลฉีกขาดที่หัวเข่าขวา และนางบาหยัน โสวรรณะ อายุ 61 ปี มีบาดแผลที่หัวไหล่ขวา แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
นายอนุกูล กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 6 คน บาดเจ็บสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 2 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 2 ราย ส่วนสาเหตุต้องรอผลการตรวจจากผู้เกี่ยวข้องก่อน แต่เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด พบว่าลูกค้าที่เอาถังก๊าซมาเปลี่ยนได้เปิดวาล์วที่ถังบนหลังรถให้เจ้าของร้านดู จากนั้นจึงเกิดระเบิดขึ้น ส่วนอาคารพาณิชย์เป็นของของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถูกแรงระเบิดเสียหาย 11 หลัง ประกันภัยไว้กับบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด ซึ่งวันที่ 15 พฤศจิกายน บริษัทจะเข้ามาตรวจสอบ
"ยังระบุไม่ได้ว่าก๊าซอะไร เพราะร้านค้าแห่งนี้จำหน่ายออกซิเจน จึงต้องสันนิษฐานเบื้องต้นไว้ก่อนว่าเป็นออกซิเจน ส่วนจะเป็นก๊าซชนิดใดกันแน่ ขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง"
เมื่อเวลา 07.30 น. วานนี้(14 พ.ย.) ร.ต.ท.พร้อมพงษ์ เทพทับทิม ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุระเบิดที่ท้ายรถกระบะซึ่งจอดเยื้องกับร้าน "ศักด์ออกซิเย่น" ริมถนนมรุพงษ์ ต.หน้าเมือง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ
พบว่าอาคารไม้เก่าแก่ และอาคารพาณิชย์ 2 ฝั่งถนนถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย ถังออกซิเจนสูงประมาณ 1.5 เมตร บริเวณหน้าร้านศักด์ออกซิเย่นฉีกขาด ชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจายในรัศมี 30-40 เมตร พบศพของผู้เสียชีวิตสภาพท่อนล่างแหลกเละไปเกือบครึ่งตัวที่ประตูเหล็กหน้าร้านค้าริมถนนฝั่งละ 1 ศพ ประกอบด้วย น.ส.ประเทือง บุญรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 13 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายสุรเดช สว่างอารมณ์ อายุ 30 ปีเศษ อาชีพขับรถกระบะเร่ขายเสื้อผ้าและลูกโป่ง และนายศักดิ์ ถาวรวงศ์ อายุ 69 ปี เจ้าของร้านศักด์ออกซิเย่น ถูกแรงระเบิดกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร สภาพร่างกายแหลกเหลว
ทั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร(เมืองฉะเชิงเทรา) 6 ราย โดยมีรถสามล้อถูกเพลิงไหม้ 1 คัน รถของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงถูกแรงระเบิดเสียหาย 5 คัน
สอบถามนายปองสิทธิ์ ถาวรวงษ์ อายุ 44 ปี บุตรชายนายศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเกิดกำลังนอนอยู่ที่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจึงลงมาดูจึง พบว่ามีเหตุระเบิดที่หน้าร้าน แต่ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยร้านของตนรับถังออกซิเจนที่บรรจุแล้วจากโรงงานมาวางขาย ผู้ซื้อต้องนำถังเปล่ามาปลี่ยน
ขณะที่นางสุภานันท์ สุขถนอม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/22 หมู่ 2 ต.บางขวัญ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ญาติของน.ส.ประเทืองและนายสุรเดช ที่มาดูเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ตายน่าจะนำรถกระบะมิตซูบิชิไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บพ 4340 ฉะเชิงเทรา มาจอดที่หน้าร้านและเรียกนายศักดิ์ เพื่อขอเปลี่ยนถังใหม่ไปอัดลูกโป่งขายในงานแห่พระองค์หลวงพ่อโสธร ที่จะมีขึ้นวันนี้จนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน เนื่องจากผู้ตายบ่นว่าถังที่นำไปเติมก๊าซไว้ล่วงหน้า อัดลูกโป่งแล้วไม่ลอย จึงมาเปลี่ยนถังใหม่
พล.ต.ต.เชิดชาย เสขะนันทน์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าถังออกซิเจนระเบิดได้อย่างไร ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบก่อน
เวลา 15.15 น. นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติที่โรงพยาบาล โดยมีนพ.ประสิทธิ์ มานะเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ให้ข้อมูลรายแรกเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี บาดเจ็บที่ใบหน้า หนังศีรษะ และขาขวาหัก นอนให้ออกซิเจนอยู่ภายในห้องปลอดเชื้อ รายที่ 2 นายสมชาย อายุ 15 ปี ชาวพม่า อยู่ในห้องผ่าตัด รายที่ 3 นางลักขณา สุธีพิเชษฐ์ภัณฑ์ อายุ 73 ปี แข้งซ้ายหัก ข้อเท้าขวาหัก เอ็นข้อเท้าขาขวาขาด อยู่ในห้องผ่าตัด รายที่ 4 นางอรพิน สุธีพิเชษฐ์ภัณฑ์ อายุ 69 ปี มีบาดแผลฉีกขาดที่ขาทั้งสองข้าง หนังศีรษะเปิด
อีก 2 ราย คือ นางจงกล อิ่มพรหม อายุ 48 ปี มีบาดแผลฉีกขาดที่หัวเข่าขวา และนางบาหยัน โสวรรณะ อายุ 61 ปี มีบาดแผลที่หัวไหล่ขวา แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
นายอนุกูล กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 6 คน บาดเจ็บสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 2 ราย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 2 ราย ส่วนสาเหตุต้องรอผลการตรวจจากผู้เกี่ยวข้องก่อน แต่เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด พบว่าลูกค้าที่เอาถังก๊าซมาเปลี่ยนได้เปิดวาล์วที่ถังบนหลังรถให้เจ้าของร้านดู จากนั้นจึงเกิดระเบิดขึ้น ส่วนอาคารพาณิชย์เป็นของของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถูกแรงระเบิดเสียหาย 11 หลัง ประกันภัยไว้กับบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด ซึ่งวันที่ 15 พฤศจิกายน บริษัทจะเข้ามาตรวจสอบ
"ยังระบุไม่ได้ว่าก๊าซอะไร เพราะร้านค้าแห่งนี้จำหน่ายออกซิเจน จึงต้องสันนิษฐานเบื้องต้นไว้ก่อนว่าเป็นออกซิเจน ส่วนจะเป็นก๊าซชนิดใดกันแน่ ขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง"