ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล พร้อมพันธุ์สัตว์ทะเลคืนธรรมชาติ หวังเพิ่มประชากรในธรรมชาติ รักษาสมดุลระบบนิเวศวิทยาทางทะเล หลังพบฉลามมีแนวโน้มลดลง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ลานกิจกรรม สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานเปิดกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ซึ่งทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 เทศบาลตำบลวิชิต สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต และภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้น
โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามัน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติ นักเรียน ประชาชนภูเก็ต และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ประกอบด้วย กิจกรรมปล่อยปลาฉลามกบ 119 ตัว กุ้งการ์ตูน 199 คู่ กุ้งกุลาดำ 500,000 ตัว และปลากะพงขาว 30,000 ตัว และนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ตลอดจนเปิดบริการให้คู่พ่อลูกเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าชม ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30-14.00 น.
ด้านนายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวว่า การจัดกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเชิญชวนให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมกันทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษาแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมงานวิจัยด้านการเพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเล และการปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
“จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติทางทะเล ขณะเดียวกัน สัตว์ทะเลหลายชนิดเป็นสิ่งดึงดูดใจให้เกิดการดำน้ำชมความงามในทะเล ตั้งแต่สัตว์สวยงามขนาดเล็กอย่างกุ้งการ์ตูน ไปจนถึงสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ฉลาม สำหรับฉลามกบ เป็นฉลามพันธุ์เล็ก ไม่ดุร้าย โตเต็มที่ประมาณ 1 เมตร มีตาขนาดเล็ก จากรายงานพบว่า ทั้งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย จำนวนฉลามทุกสายพันธุ์ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการล่าของมนุษย์ และจากการที่ฉลามเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ การเจริญเติบโตเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้า โอกาสที่จะผสมพันธุ์กันในธรรมชาติเกิดขึ้นได้น้อย
วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ฉลามมีจำนวนมากขึ้นคือ การเพาะขยายพันธุ์ แต่การปล่อยปลาฉลามคืนสู่ทะเลนั้นมิได้หมายความว่า จะเพิ่มฉลามจำนวนมากได้ในทันทีทันใด แต่เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเพิ่มจำนวนประชากรฉลามกบ รวมถึงการรักษาสมดุลระบบนิเวศวิทยาทางทะเล และปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนต ลอดจนสร้างแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลได้เป็นอย่างดี” นายอุกกฤต กล่าวในที่สุด
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ลานกิจกรรม สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานเปิดกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ซึ่งทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 เทศบาลตำบลวิชิต สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต และภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้น
โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามัน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง แขกผู้มีเกียรติ นักเรียน ประชาชนภูเก็ต และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ประกอบด้วย กิจกรรมปล่อยปลาฉลามกบ 119 ตัว กุ้งการ์ตูน 199 คู่ กุ้งกุลาดำ 500,000 ตัว และปลากะพงขาว 30,000 ตัว และนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ตลอดจนเปิดบริการให้คู่พ่อลูกเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าชม ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30-14.00 น.
ด้านนายอุกกฤต สตภูมินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามัน กล่าวว่า การจัดกิจกรรมร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล “ปล่อยฉลามกบคืนสู่ทะเล” ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเชิญชวนให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมกันทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษาแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมงานวิจัยด้านการเพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเล และการปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
“จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงด้านความงดงามของธรรมชาติทางทะเล ขณะเดียวกัน สัตว์ทะเลหลายชนิดเป็นสิ่งดึงดูดใจให้เกิดการดำน้ำชมความงามในทะเล ตั้งแต่สัตว์สวยงามขนาดเล็กอย่างกุ้งการ์ตูน ไปจนถึงสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ฉลาม สำหรับฉลามกบ เป็นฉลามพันธุ์เล็ก ไม่ดุร้าย โตเต็มที่ประมาณ 1 เมตร มีตาขนาดเล็ก จากรายงานพบว่า ทั้งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย จำนวนฉลามทุกสายพันธุ์ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการล่าของมนุษย์ และจากการที่ฉลามเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ การเจริญเติบโตเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้า โอกาสที่จะผสมพันธุ์กันในธรรมชาติเกิดขึ้นได้น้อย
วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ฉลามมีจำนวนมากขึ้นคือ การเพาะขยายพันธุ์ แต่การปล่อยปลาฉลามคืนสู่ทะเลนั้นมิได้หมายความว่า จะเพิ่มฉลามจำนวนมากได้ในทันทีทันใด แต่เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเพิ่มจำนวนประชากรฉลามกบ รวมถึงการรักษาสมดุลระบบนิเวศวิทยาทางทะเล และปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนต ลอดจนสร้างแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลได้เป็นอย่างดี” นายอุกกฤต กล่าวในที่สุด