ตร.เมืองภูเก็ตรวบหนุ่มใหญ่ตระเวนก่อเหตุชิงสร้อยทอง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต แกะรอยกล้องวงจรปิดตามรวบหนุ่มนครสวรรค์ วัย 35 ปี ก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำในพื้นที่ภูเก็ต ตรวจสอบพบก่อเหตุ 2 วันติดต่อกัน มีเหยื่อผู้เสียหาย 2 ราย แต่สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่สามารถตามจับได้ในที่สุด ด้านเจ้าตัวรับสารภาพนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ ร.ต.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุมตัว นายรณชัย ทองคุ้ม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 ม.7 ต.พนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ 1 คัน เสื้อผ้าสวมในวันที่ก่อเหตุ กระเป๋าสะพาย 1 ใบ โดยสามารถจับกุมตัวได้ในพื้นที่ตำบลฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่นต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 12.06 น. วันที่ 22 พ.ย.56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจาก นางนิยดา กิจชำนาญ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านขายของชำไม่มีชื่อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ว่าถูกคนร้ายขับรถประกบแล้วชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แล้วหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า คนร้ายที่ก้อเหตุเป็นชายลักษณะสูง ผิวคล้ำ ขับรถจักรยานยนต์มาเพียงคนเดียว เมื่อสบโอกาสก็กระชากสร้อยแล้วหลบหนีไป และจากนั้นวันที่ 23 พ.ย.56 เวลาประมาณ 17.15 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งอีกว่า เกิดเหตุคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำของ นางจิตติกานติ์ กิตโรจน์สุวรรณ อายุ 45 ปี เจ้าของบริทัวร์แห่งหนึ่ง ได้ทองคำไป 1 บาท และพยานที่เห็นเหตุการณ์สามารถจำตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้อย่างแม่นยำ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายรณชัย ทองคุ้ม จึงตามจับกุมตัวได้ในพื้นที่ตำบลฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ด้าน นายรณชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพพร้อมกล่าวว่า ลงมือก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำทั้ง 2 ครั้งจริง เนื่องจากตกงาน และไม่มีเงิน ส่วนเงินที่ได้มาจากการนำทองไปขายนั้นก็จะนำไปเที่ยวเตร่ และนอนตามโรงแรม เนื่องจากไม่มีบ้านพักเป็นหลักแหล่ง จากนั้นทางตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป