ลำปาง - ตำรวจเมืองลำปาง ตามรวบตัวจนได้ หนุ่มแสบวิ่ง จยย.ประกบเหยื่อผู้หญิงก่อนชิงทรัพย์ เผยทำมาแล้วกว่า 15 คดี ขณะที่เจ้าทุกข์แห่ดูหน้าตรึม
เย็นวันนี้ (20 พ.ย.) พล.ต.ต.พรชัย พักต์ผ่องศรี ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ฐนกร คุ้มวงศ์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง พ.ต.ท.วิภาส แสงศศิธร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ คือ นายวรวิทย์ วังราช อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 143 ม.3 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปี้ไอ สีดำ ทะเบียน 1 กข 627 ลำปาง ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาหลายรายการ เช่น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน-ยี่ห้อซัมซุง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง พระเครื่อง บัตรเครดิต ฯลฯ หลังก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ออกตะเวนชิงทรัพย์ทั่วเมืองลำปางกว่า 15 คดี
ส่วนผู้ต้องหาอีกรายคือ นายตุลธร ระตะเจริญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266/490 ม.15 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งถูกจับได้เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ขณะปีนเข้าบ้านผู้เสียหาย และกำลังงัดแงะเข้าไปภายในบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่กล้องวงจรปิดได้ส่งสัญญาณเตือนภัยเข้ามือถือเจ้าของบ้าน จนถูกจับได้ทันที ขณะที่ผู้เสียหายที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมาชี้ตัวกว่า 10 รายแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ได้เกิดเหตุชิงทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ลำปางบ่อยครั้ง โดยคนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาประกบ แล้วใช้กำลังประทุษร้าย ก่อนที่จะชิงเอากระเป๋าสะพาย และทรัพย์สินของผู้เสียหายไป
เมื่อสอบสวนปากคำผู้เสียหายได้ให้การตรงกันแทบทุกคดีว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายรูปร่างใหญ่ ผิวขาว ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปี้ไอ สีดำ เป็นพาหนะในการก่อเหตุแล้วหลบหนีไป
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง จึงได้เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดตามถนนสายต่างๆ ของตัวเมืองลำปาง จนพบว่ามีภาพคนร้ายรายนี้ขับรถคันดังกล่าวโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มุ่งหน้าไปทางแยกห้วยเป้ง ต.บ่อแฮ้ว หลังเกิดเหตุแทบทุกครั้ง จึงได้ออกติดตามหาข่าวตามแหล่งต่างๆ ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นแหล่งพักอาศัยของคนร้าย จนสามารถรู้ตัวคนร้าย และเข้าจับกุมได้ที่บ้านพักที่ ต.บ่อแฮ้ว ได้ในวันนี้
จากการสอบสวนนายวรวิทย์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จริง และทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง เน้นเอาทรัพย์สินที่เป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแพงๆ และกระเป๋าสะพายที่วางไว้ตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็จะนำไปขายเพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่ พอเงินหมดก็จะกลับมาก่อเหตุอีก