รวบโจ๋แสบ “แก๊งพลอยแก้ว” ตะเวนวิ่งราวทรัพย์ย่านฝั่งธนฯ สารภาพทำมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เลือกเหยื่อที่สวมสร้อยทองคำหนัก 2 บาทขึ้นไป หลังได้ทองจะนำไปหลอมเพื่อขาย แล้วแบ่งเงินกัน เมื่อเงินหมดจึงค่อยกลับมาก่อเหตุซ้ำ
วันนี้ (10 พ.ย.) พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย ร.ต.อ.นิติศักดิ์ แสงนาค รอง สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสรศักดิ์ หรือ “บาว แป้นทอง” อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ถนนวุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีชมพูขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท จำนวน 1 เส้น พระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวด จำนวน 1 องค์ และหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ สีฟ้า จำนวน 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าตลาดพรานนก ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย
พ.ต.ท.อดิเรก กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 เร่งรัดให้ทำการสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ประชาชนที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลธนบุรี และหน้าตลาดพรานนก ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงร่วมกันวางแผน โดยการนำภาพกล้องวงจรปิดมาดูรูปพรรณของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ พร้อมกับทำการซุ่มเฝ้าสังเกตพฤติการณ์เพื่อจับกุม กระทั่งเมื่อวันที่ 9 พ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ซึ่งมีรูปพรรณตามที่ได้สืบสวนมาขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนวนไปมาอยู่บริเวณหน้าตลาดพรานนก จึงได้ขับขี่รถติดตามไป ก่อนพบคนร้ายกำลังกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ของผู้เสียหายซึ่งเป็นทหารเรือย่านดังกล่าว และกำลังจะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุมคนร้าย จำนวน 1 ราย คือ นายสรศักดิ์ หรือ “บาว แป้นทอง” ผู้ก่อเหตุใช้มือกระชากสร้อย พร้อมของกลาง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้
พ.ต.ท.อดิเรก กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า นายสรศักดิ์ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ใช้ชื่อแก๊งว่า “พลอยแก้ว” โดยมีสมาชิกทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นย่านตลาดพลู และสมาชิกทุกคนจะมีเสื้อที่มีชื่อแก๊งที่พิมพ์ว่า “Ploy k@ew” ใส่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งพลอยแก้ว จะเน้นวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำอย่างเดียว โดยจะเลือกเหยื่อที่สวมใส่สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทขึ้นไปเท่านั้น และจะใช้รถจักรยานยนต์ตระเวนหาเหยื่อ เมื่อสบโอกาสก็จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งแก๊งดังกล่าวก่อเหตุในพื้นที่ฝั่งธนฯ มากว่า 20 ครั้งแล้ว โดยผู้เสียหายหลายรายได้รับบาดเจ็บ บางรายถูกถีบรถล้มจนขาหัก และมีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกแก๊งนี้กระชากสร้อยแล้วพยายามจะขับรถตาม แต่คนร้ายกลับใช้อาวุธปืนปลอมออกมาขู่ จนไม่กล้าติดตาม และเมื่อคนร้ายได้สร้อยคอทองคำแล้วก็จะนำไปหลอม ก่อนจะนำไปขายยังร้านรับซื้อเศษทองย่านวงเวียนใหญ่ และเมื่อได้เงินมาแล้วก็จะแบ่งกัน พร้อมกับไปเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อเงินหมดเมื่อไร่ก็จะมาลงมือก่อเหตุอีก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทราบชื่อสมาชิกของแก๊งพลอยแก้วทั้งหมดแล้ว จากนี้จะขออำนาจศาลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป