สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดมกำลังทหารฝายปกครอง และท้องถิ่นพร้อมเครื่องสูบน้ำกู้องค์พระบรมธาตุไชยา มรดกวัฒนธรรมอายุกว่า 1,500 ปี หลังถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 70 เซนติเมตร ในเบื้องต้นตรวจพบมีความเสียหายบางส่วนแล้ว ขณะที่การค้นหา ด.ช.การุณ จมน้ำ ล่าสุด พบศพแล้ว
วันนี้ (24 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้ว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปหลายพื้นที่ปลอดโปร่ง ฝนหยุดตกบางช่วง แต่มีหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะวัดพระบรมธาตุไชยา ภายในกำแพงแก้วที่ประดิษฐานพระบรมธาตุไชยาน้ำยังท่วมขังสูงกว่า 70 ซม. ล่าสุด นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้ประสานขอกำลัง นพค.46 กองบิน 7 ปภ.เขต 11 และเทศบาลเมืองไชยา นำเครื่องสูบน้ำ 7 ตัว เร่งสูบระบายน้ำออกโดยเฉพาะภายในกำแพงแก้วที่ตั้งฐานพระบรมธาตุไชยาชั้นใน คาดว่าจะระบายน้ำออกให้แล้วเสร็จภายในเย็นวันนี้ โดยที่ทาง นพค.46 นำกระสอบทราย จำนวน 1,000 ถุง ปิดประตูกั้นน้ำเข้าภายในบริเวณที่ประดิษฐานพระบรมธาตุไชยา
โดยนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่า ในส่วนของพระบรมธาตุไชยา พบรอยร้าวบางจุด และทองที่ติดองค์พระธาตุเริ่มหลุดลอก ซึ่งจะต้องซ่อมแซมต่อไป ทางจังหวัดจะได้เร่งสรุปเสนอให้กรมศิลปกรมาดำเนินการต่อไป ส่วนการแวงแผนระบายน้ำออกจากตัววัดพระบรมธาตุ ได้จัดวางไว้ 3 ขั้นตอน โดยตอนที่ 1 สูบน้ำจากองค์พระธาตุชั้นในก่อนเพื่อป้องกันการทรุดตัวขององค์พระธาตุ ขั้นตอนที่ 2 สูบน้ำออกจากตัวรอบพระบรมธาตุด้านนอก ขั้นตอนที่ 3 สูบระบายน้ำออกจากตัววัดพระบรมธาตุ โดยใช้กระสอบทรายวางเป็นกำแพงกันน้ำ
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ทาง ปภ.สุราษฎร์ธานี ได้สรุปผลกระทบแล้ว 7 อำเภอ 39 ตำบล 237 หมู่บ้าน พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 7 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้วประกอบด้วย อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาเดิม อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.พนม อ.บ้านนาเดิม และ อ.พระแสง
ส่วนการค้นหา ด.ช.การุณ มาวรรณ อายุ 8 ขวบ ที่พลัดตกน้ำใกล้สถานีรถไฟท่าชนะ เมื่อบ่ายวานนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างพบร่างของเด็กชายจมอยู่ใต้น้ำในคลองที่ขนานกับทางรถไฟ บริเวณทางข้ามรางรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร
วันนี้ (24 พ.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้ว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปหลายพื้นที่ปลอดโปร่ง ฝนหยุดตกบางช่วง แต่มีหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะวัดพระบรมธาตุไชยา ภายในกำแพงแก้วที่ประดิษฐานพระบรมธาตุไชยาน้ำยังท่วมขังสูงกว่า 70 ซม. ล่าสุด นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้ประสานขอกำลัง นพค.46 กองบิน 7 ปภ.เขต 11 และเทศบาลเมืองไชยา นำเครื่องสูบน้ำ 7 ตัว เร่งสูบระบายน้ำออกโดยเฉพาะภายในกำแพงแก้วที่ตั้งฐานพระบรมธาตุไชยาชั้นใน คาดว่าจะระบายน้ำออกให้แล้วเสร็จภายในเย็นวันนี้ โดยที่ทาง นพค.46 นำกระสอบทราย จำนวน 1,000 ถุง ปิดประตูกั้นน้ำเข้าภายในบริเวณที่ประดิษฐานพระบรมธาตุไชยา
โดยนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่า ในส่วนของพระบรมธาตุไชยา พบรอยร้าวบางจุด และทองที่ติดองค์พระธาตุเริ่มหลุดลอก ซึ่งจะต้องซ่อมแซมต่อไป ทางจังหวัดจะได้เร่งสรุปเสนอให้กรมศิลปกรมาดำเนินการต่อไป ส่วนการแวงแผนระบายน้ำออกจากตัววัดพระบรมธาตุ ได้จัดวางไว้ 3 ขั้นตอน โดยตอนที่ 1 สูบน้ำจากองค์พระธาตุชั้นในก่อนเพื่อป้องกันการทรุดตัวขององค์พระธาตุ ขั้นตอนที่ 2 สูบน้ำออกจากตัวรอบพระบรมธาตุด้านนอก ขั้นตอนที่ 3 สูบระบายน้ำออกจากตัววัดพระบรมธาตุ โดยใช้กระสอบทรายวางเป็นกำแพงกันน้ำ
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ทาง ปภ.สุราษฎร์ธานี ได้สรุปผลกระทบแล้ว 7 อำเภอ 39 ตำบล 237 หมู่บ้าน พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 7 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้วประกอบด้วย อ.กาญจนดิษฐ์ อ.บ้านนาเดิม อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.พนม อ.บ้านนาเดิม และ อ.พระแสง
ส่วนการค้นหา ด.ช.การุณ มาวรรณ อายุ 8 ขวบ ที่พลัดตกน้ำใกล้สถานีรถไฟท่าชนะ เมื่อบ่ายวานนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างพบร่างของเด็กชายจมอยู่ใต้น้ำในคลองที่ขนานกับทางรถไฟ บริเวณทางข้ามรางรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร
