ปัตตานี – รัฐบาลเตรียมจัดสร้างหอพักให้แก่นักศึกษาไทยในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ หลังเดินทางกลับไปศึกษาต่ออีกครั้งเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เผยอนุมัติวงแล้ว 30 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ที่กรุงไคโร ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าศึกษาอยู่ประมาณ 2,000 กว่าคน
วันนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. หลังจากที่นำคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าทูตประจำสถานทูต กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอพักนักศึกษานานาชาติภายในมหาวิทยาลัย อัลอัซฮัร และหอพักนักศึกษามาเลเซีย บรูไนดารุสซาลาม ในกรุงไคโร ที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ได้เช่าอาคารตึกขนาด 8 ชั้น ไว้ให้นักศึกษาของทั้ง 2 ประเทศที่ศึกษาในกรุงไคโรพักอาศัย เพื่อเป็นแนวทางของการตัดสินใจว่าจะสร้าง หรือเช่าให้นักศึกษาไทยพักอาศัย หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ดำเนินการเพื่อเป็นการช่วยเหลือนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ที่กรุงไคโร ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าศึกษาอยู่ประมาณ 2,000 กว่าคน
ภายหลังจากได้เข้าเยี่ยมชม เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า การเหมาลำเครื่องบินการบินไทยนำนักศึกษาไทยกลับมาอียิปต์อีกครั้ง เพื่อเข้าเรียนต่อที่มหาลัยอัลอัซฮัร และมหาวิทยาลัยในกรุงไคโร หลังจากที่ได้หลบภัยปัญหาการประท้วงใหญ่อียิปต์ โดยเฉพาะที่กรุงไคโร ทั้งนี้ เพื่อให้เยาวชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าใจว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด นอกจากนั้น เรายังได้ส่งนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เดินทางมาด้วย เพื่อมารับทราบถึงปัญหาของเยาวชนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในกรุงไคโร และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด นำไปสู่การแก้ไข และพัฒนาการศึกษาไทยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
ซึ่งครั้งนี้ทางขณะได้มีการร่วมหารือกับทางอธิการบดีมหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร ถึงกรณีของการเทียบโอนความรู้วิชาสายสามัญให้สามารถเทียบโอนกับรายวิชาอื่นๆ ได้ ในส่วนการเลือกศึกษาวิชาสายศาสนาเป็นส่วนใหญ่นั้น ทางคณะฯ เห็นควรที่ทางมหาลัยอัลอัซฮัรเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยเรียนในสาขาวิชาอื่นเพิ่มมากขึ้น เช่น วิชาสายการแพทย์ สาขาวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรรับที่จะดำเนินการได้ทันที เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครมาร้องขอ สร้างความประทับใจให้แก่นักศึกษาไทย และคณะเป็นอย่างมาก
“ส่วนของการก่อสร้างอาคารหอพักให้แก่สมาคมนักศึกษาไทยนั้น เราก็ได้นำคณะเข้ามาเยี่ยมดูถึงความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร เพราะการสร้างอาคารหอที่พักให้แก่นักศึกษาต้องใช้เวลานานพอสมควร และไม่สามารถที่จะรองรับนักศึกษาไทยเข้ามาพักได้ทั้งหมด จึงอาจไม่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาหอพักศึกษาได้ทันที อาจจะเช่าตึกเหมือนกับที่ทางประเทศมาเลเซียดำเนินการอยู่ เพราะสามารถมีหอพักให้นักศึกษาไทยได้ทันที จึงได้มอบหมายให้ทางสถานทูตไทย กรุงไคโร เข้ามาหารือกับทางมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร และกับทางสมาคมนักศึกษาอียิปต์อีกครั้ง เนื่องจากทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงงบประมาณมาแล้ว 30 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือนักศึกษาไทยในกรุงไคโร” เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าว
ด้านนายอับดุลเราะมัน อับดุลซอมัด ประธานสมาพันธ์อิหม่าม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การเดินทางของคณะ ศอ.บต. ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกฝ่ายจะได้เข้าใจคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น เนื่องจากประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่นิยมส่งลูกมาเรียนที่กรุงไคโร ที่ผ่านมา บางหน่วยงานในพื้นที่เข้าใจผิดต่อเยาวชนที่เรียนที่นี่มาโดยตลอด ซึ่งคณะที่มาในวันนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยน่าจะเข้าใจกับหลักสูตรของการศึกษาที่นี่ได้ดี เพราะมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรใช้หลักสูตรเดินสายกลางมาโดยตลอด ไม่นิยมความรุนแรง ทำให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
“ความจริงแล้วมหาวิทยาลัย อัลอัซฮัร ไม่ได้สอนเพียงแค่สาขาศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากบางสาขาที่เรียนจบที่นี่ประเทศไทยกลับไม่รับรอง ทำให้บัณฑิตที่เรียนจบที่นี่ขาดโอกาสในการรับราชการได้ เช่น จบคณะแพทย์ ทันตแพทย์ เป็นต้น เพื่อความอยู่รอดบัณฑิตเหล่านี้กลับถูกเรียกไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย บรูไนดารุสซาลาม และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายสำหรับประเทศไทย ทั้งๆ ที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังประสบกับปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ และทันตแพทย์ อยู่เป็นจำนวนมาก จึงอยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้องควรที่จะยิบยกประเด็นเหล่านี้มาหาทางออกร่วมกัน อย่างน้อยเป็นการสร้างโอกาสในการผลิตบุคลากรของประเทศชาติได้อีกทางหนึ่ง” ประธานสมาพันธ์อิหม่าม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าว