กระบี่ - สธ. ร่วมกับมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ จัดประชุมวิชาการนานาชาติ “Caries Control throughout life in Asia” ระดม 18 ประเทศในทวีปเอเชีย กำหนดแนวทางในการลดปัญหาฟันผุของประเทศในภูมิภาคพื้นเอเชีย เผยปัญหาฟันผุมีผลกระทบต่อบุคลิกภาพ การเจริญเติบโต และการเรียนของเด็ก และทำให้เด็กไทยต้องหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่โรงแรมบียอนด์ รีสอร์ท ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการนานาชาติ Caries Control throughout life in Asia เรื่องการกำหนดแนวทางในการลดปัญหาฟันผุของประเทศในภูมิภาคพื้นเอเชีย โดยมีผู้แทนจาก 18 ประเทศ ในทวีปเอเชีย ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟิลิปินส์ ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย เนปาล ฮ่องกง ไต้หวัน ภูฏาน บรูไน และประเทศไทย เข้าร่วมประชุมเพื่อลดปัญหาฟันผุของประชากรภายในประเทศต่อไป
นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคฟันผุเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และอาจจะส่งผลกระทบไปถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา และด้อยพัฒนาในแถบเอเชีย ทั้งด้านการกินอาหาร การพูด บุคลิกภาพ และการเข้าสังคม แม้ประเทศไทยจะมีมาตรการควบคุมป้องกันและรักษาฟันผุอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 7 พ.ศ.2555 พบว่า เด็กเล็กอายุ 3-5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 52 และ 79 เด็กวัยเรียนอายุ 12-15 ปี มีฟันแท้ผุร้อยละ 52-62 กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุ มีฟันผุร้อยละ 87 และ 97
ซึ่งสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน พฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะเด็กชอบทานขนม และอาหารที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น ซึ่งจะมีผลต่อน้ำหนักด้วย นอกจากผลกระทบด้านการเจริญเติบโต และบุคลิกภาพแล้ว ที่สำคัญยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด และโรคอื่นๆ ตามมา มีผลกระทบต่อการเรียนด้วย โดยพบว่าปัญหาฟันผุนั้นทำให้เด็กต้องหยุดเรียนถึงปีละประมาณ 400,000 คน และปัญหาฟันผุยังทำให้สูญเสียฟันในช่วงวัยเด็กด้วย
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่โรงแรมบียอนด์ รีสอร์ท ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการนานาชาติ Caries Control throughout life in Asia เรื่องการกำหนดแนวทางในการลดปัญหาฟันผุของประเทศในภูมิภาคพื้นเอเชีย โดยมีผู้แทนจาก 18 ประเทศ ในทวีปเอเชีย ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟิลิปินส์ ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย เนปาล ฮ่องกง ไต้หวัน ภูฏาน บรูไน และประเทศไทย เข้าร่วมประชุมเพื่อลดปัญหาฟันผุของประชากรภายในประเทศต่อไป
นายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคฟันผุเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และอาจจะส่งผลกระทบไปถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา และด้อยพัฒนาในแถบเอเชีย ทั้งด้านการกินอาหาร การพูด บุคลิกภาพ และการเข้าสังคม แม้ประเทศไทยจะมีมาตรการควบคุมป้องกันและรักษาฟันผุอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 7 พ.ศ.2555 พบว่า เด็กเล็กอายุ 3-5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 52 และ 79 เด็กวัยเรียนอายุ 12-15 ปี มีฟันแท้ผุร้อยละ 52-62 กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุ มีฟันผุร้อยละ 87 และ 97
ซึ่งสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชน พฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะเด็กชอบทานขนม และอาหารที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น ซึ่งจะมีผลต่อน้ำหนักด้วย นอกจากผลกระทบด้านการเจริญเติบโต และบุคลิกภาพแล้ว ที่สำคัญยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด และโรคอื่นๆ ตามมา มีผลกระทบต่อการเรียนด้วย โดยพบว่าปัญหาฟันผุนั้นทำให้เด็กต้องหยุดเรียนถึงปีละประมาณ 400,000 คน และปัญหาฟันผุยังทำให้สูญเสียฟันในช่วงวัยเด็กด้วย