ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พีดี.เฮ้าส์ จับมือ เจ.ดี.พูลส์ เดินหน้าสานธุรกิจ บุกตลาดสร้างบ้าน-สร้างสระว่ายน้ำ ทั่วประเทศ เชื่อหลังมีการจับมือทำยอดขายดีขึ้น ขณะที่ปี 57 พีดี.เฮาส์ ตั้งเป้าทำได้ 2,000 ล้านบาท จากทั่วประเทศ ขณะที่ เจ.ดี.พูลส์ ตั้งเป้าอีก 3 ปีขยายสาขาครบ 50 สาขา
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีดี.เฮาส์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด พร้อมด้วยนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกลุ่ม บริษัท เจ.ดี.พูลส์.ร่วมกันแถลงถึงความร่วมมือในการทำธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท ว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจะสร้างบ้าน พร้อมสระว่ายน้ำ เนื่องจากปัจจุบัน เทรนด์สุขภาพการออกกำลังกายกำลังมาแรง การร่วมมือกันของทั้ง 2 บริษัท จึงเป็นความร่วมมือที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และลูกค้ากลุ่มสร้างบ้านเองเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีดี.เฮาส์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของ พีดี.เฮาส์ นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 36 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และมี 2 ประเภท คือ สร้างบ้านอย่างเดียว และกลุ่มที่สร้างบ้านพร้อมสระว่ายน้ำ ซึ่งในส่วนของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ทางบริษัทจะนำเสนอสระว่ายน้ำของทาง เจ.ดี.พูลส์ เข้าไปตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่ต้องไปติดต่อหลายบริษัท ทางบริษัทพร้อมที่จะดำเนินการให้เสร็จพร้อมๆกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านนั้นส่วนใหญ่จะมีราคาตั้งแต่ระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทางบริษัทมีแบบให้เลือกมากกว่า 200 แบบ หรือต้องการแบบพิเศษก็มีให้บริการ
สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านนั้นมีมากเป็น 1 แสนล้าน แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นของผู้รับจ้างรายย่อย ธุรกิจสร้างบ้านนั้นส่วนใหญ่ยังมีการแข่งขันกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้ธุรกิจสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 7,000-9,000 ล้านบาท โดยในปี 2557 คาดว่าธุรกิจสร้างบ้านจะโตขึ้นโดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของ พีดี.เฮ้าส์ เองนั้นในปี 2556 นี้ ได้ตั้งเป้าทำร้ายได้จากการสร้างบ้านไว้ที่ 1,400 ล้านบาท โดยขณะนี้สามารถทำรายได้ได้แล้วกว่า 1,100 ล้านบาท และตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ทางบริษัทจะจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขาย มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดได้ตามเป้าที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกลุ่ม บริษัท เจ.ดี.พูลส์. กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ เจ.ดี.พูลส์ นั้น พบว่า ยอดขายดีขึ้นโดยมียอดทั้งส่งออก และขายในประเทศประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดส่งออกต่างประเทศ 30% และยอดขายในประเทศ 70% ซึ่งขณะนี้ทางเจ.ดี.พูลส์ สร้างโรงงานผลิตสระว่ายน้ำ และศูนย์อบรมเสร็จแล้ว พร้อมที่จะรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีการขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่วนการเปิดสาขาเพื่อให้บริการ และจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุม และทั่วถึงกลุ่มลูกค้านั้น ปัจจุบันมีอยู่ 17 สาขา ซึ่งอีก 3 ปีข้างหน้านี้ทางบริษัททั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ครบ 50 สาขาทั่วประเทศ
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีดี.เฮาส์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด พร้อมด้วยนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกลุ่ม บริษัท เจ.ดี.พูลส์.ร่วมกันแถลงถึงความร่วมมือในการทำธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท ว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจะสร้างบ้าน พร้อมสระว่ายน้ำ เนื่องจากปัจจุบัน เทรนด์สุขภาพการออกกำลังกายกำลังมาแรง การร่วมมือกันของทั้ง 2 บริษัท จึงเป็นความร่วมมือที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี และลูกค้ากลุ่มสร้างบ้านเองเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีดี.เฮาส์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของ พีดี.เฮาส์ นั้นเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับสร้างบ้าน ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 36 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และมี 2 ประเภท คือ สร้างบ้านอย่างเดียว และกลุ่มที่สร้างบ้านพร้อมสระว่ายน้ำ ซึ่งในส่วนของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ทางบริษัทจะนำเสนอสระว่ายน้ำของทาง เจ.ดี.พูลส์ เข้าไปตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่ต้องไปติดต่อหลายบริษัท ทางบริษัทพร้อมที่จะดำเนินการให้เสร็จพร้อมๆกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านนั้นส่วนใหญ่จะมีราคาตั้งแต่ระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทางบริษัทมีแบบให้เลือกมากกว่า 200 แบบ หรือต้องการแบบพิเศษก็มีให้บริการ
สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านนั้นมีมากเป็น 1 แสนล้าน แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นของผู้รับจ้างรายย่อย ธุรกิจสร้างบ้านนั้นส่วนใหญ่ยังมีการแข่งขันกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้ธุรกิจสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 7,000-9,000 ล้านบาท โดยในปี 2557 คาดว่าธุรกิจสร้างบ้านจะโตขึ้นโดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของ พีดี.เฮ้าส์ เองนั้นในปี 2556 นี้ ได้ตั้งเป้าทำร้ายได้จากการสร้างบ้านไว้ที่ 1,400 ล้านบาท โดยขณะนี้สามารถทำรายได้ได้แล้วกว่า 1,100 ล้านบาท และตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ทางบริษัทจะจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขาย มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดได้ตามเป้าที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกลุ่ม บริษัท เจ.ดี.พูลส์. กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ เจ.ดี.พูลส์ นั้น พบว่า ยอดขายดีขึ้นโดยมียอดทั้งส่งออก และขายในประเทศประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดส่งออกต่างประเทศ 30% และยอดขายในประเทศ 70% ซึ่งขณะนี้ทางเจ.ดี.พูลส์ สร้างโรงงานผลิตสระว่ายน้ำ และศูนย์อบรมเสร็จแล้ว พร้อมที่จะรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีการขยายตัวเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่วนการเปิดสาขาเพื่อให้บริการ และจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุม และทั่วถึงกลุ่มลูกค้านั้น ปัจจุบันมีอยู่ 17 สาขา ซึ่งอีก 3 ปีข้างหน้านี้ทางบริษัททั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ครบ 50 สาขาทั่วประเทศ