ซัมซุงบุกตลาดแอร์เชิงพาณิชย์เต็มกำลัง ส่งระบบแอร์ VRF พร้อมทีมขายดันยอดขาย ถล่มระบบแอร์แบบชิลเลอร์ที่พบแนวโน้มจะหายไปจากตลาด ล่าสุดได้ลูกค้าหลายรายแล้ว ทั้งมหาวิทยาลัย และลูกค้าในอินโด-ไชน่า
นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแอร์ในไทยแบ่งออกเป็นกลุ่มแอร์บ้านและแอร์เชิงพาณิชย์ 50% เท่าๆ กัน ซึ่งซัมซุงได้เริ่มเข้ามารุกตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ได้กว่า 6 ปีแล้ว แต่ยังถือเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ส่งผลให้ยอดขายกลุ่มแอร์เชิงพาณิชย์ของซัมซุงยังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่มากเมื่อเทียบกับแอร์บ้าน
ล่าสุดปีนี้บริษัทมีความพร้อมทั้งในด้านทีมขาย สินค้า และดีลเลอร์ที่มีกว่า 200 รายทั่วประเทศ จึงพร้อมรุกเข้าสู่ตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมที่เน้นแต่ที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียมมาโดยตลอด เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายได้ดีขึ้น
โดยในปีนี้บริษัทพร้อมนำเสนอระบบปรับอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด คือ “ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส” ผ่านแนวคิด 3 สมาร์ท ประกอบด้วย สมาร์ทเซฟวิ่ง, สมาร์ทดีไซน์ และสมาร์ทคอนโทรล มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า จากปัจจุบันมีลูกค้าให้การตอบรับแล้วหลายราย เช่น กลุ่มมหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวมถึงโปรเจกต์ในกลุ่มอินโด-ไชน่าที่ดูแลอยู่ด้วย เช่น สระว่ายน้ำที่สนามกีฬาเนย์ปิดอว์ ประเทศพม่า และเดอะ คาสเซิล ที่ประเทศกัมพูชา โดยทั้งสองโปรเจกต์นี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหลักล้านเหรียญยูเอส
นายสมพรกล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดแอร์เชิงพาณิชย์มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1. VRF แบบมัลติไทป์ 10% แนวโน้มเติบโตสูงสุด 2. ชิลเลอร์ หรือระบบแอร์ที่ใช้น้ำ 40% และ 3. สปลิตไทป์ 50% ทั้งนี้ แนวโน้มแอร์ชิลเลอร์จะหายไปจากตลาด ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มมัลติไทป์เข้ามาแทนที่ ในส่วนของซัมซุงจะมุ่งเน้นมัลติไทป์เป็นหลัก และในอนาคตอาจจะเพิ่มในกลุ่มอื่นๆ เข้ามาด้วย