ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “กลุ่ม ม.อ.รักชาติ” ออกโรงเชิญชวนชวนพี่น้องพันธมิตรฯ และคนรักชาติเข้าร่วมติดตามวิกฤตบ้านเมือง ชี้สถานการณ์นับถอยหลังเข้าสู่ภาวะใกล้ “ฝีแตก” แล้ว โดยมีการตั้งเวทีที่ลานเสาธงหน้าอนุสาวรีย์พระบิดา
นายอุส่าห์ จันทร์อำไพ ผู้ประสานงานกลุ่ม ม.อ.รักชาติ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของคณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากร รวมถึงศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า ในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองถูกกลุ่มที่กุมกลไกอำนาจรัฐภายใต้การบงการของระบอบทักษิณนำพาให้เดินเข้าสู่วิกฤตมาอย่างต่อเนื่องช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวของนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร กำลังจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนให้แก่เขมรในอีกไม่กี่วันนี้ กลุ่ม ม.อ.รักชาติ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชนทุกภาคส่วนมาหลายปี จึงจำเป็นต้องกลับมาเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชนอีกครั้งในเวลานี้
“ตอนนี้กลุ่มเราร่วมกับตัวแทนนักศึกษาตั้งเต็นท์เปิดเวทีติดตามสถานการณ์กันอยู่ที่บริเวณลานเสาธง ด้านหน้าอนุสาวรีย์พระราชบิดา หรือหน้าตึกอธิการบดี ม.อ.นั่นเอง เปิดตั้งแต่ช่วงค่ำๆ ของทุกวันไปจนดึก จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่-สงขลา รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมติดตามสถานการณ์บ้านเมืองด้วยกัน เข้ามาในรั้ว ม.อ.แล้วหาเวทีของเราไม่ยาก แค่ผ่านไปมาด้านหน้ามหาวิทยาลัยก็มองเห็นแล้ว” ผู้ประสานงานกลุ่ม ม.อ.รักชาติกล่าว
ด้านนายบรรจง นะแส ศิษย์เก่า ม.อ.ที่ร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า เวลานี้สถานการณ์บ้านเมืองถูกระบอบทักษิณปู้ยี่ปู้ยำตกต่ำจนใกล้จะถึงก้นเหวแล้ว หรือที่มีการวิเคราะห์กันหนาหูว่าแผลหนองในสังคมไทยที่เกิดจากน้ำมือของ นช.ทักษิณ ใกล้จะปริแตกแล้ว โดยเฉพาะสถานการณ์ที่น่าจะเป็นจุดหักเหสำคัญของสังคมไทย การอ่านคำพิพากษาของศาลโลกในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.นี้
“การที่กลุ่ม ม.อ.รักชาติ ตั้งเวทีแล้วเชิญพี่น้องประชาชนมาร่วมกันติดตามสถานการณ์เป็นเรื่องที่ดี ผมเองก็ได้เข้าสนับสนุนเต็มที่ อย่างน้อยในพื้นที่หาดใหญ่เราก็จะได้มีจุดรวมพลคนรักชาติ หากมีสถานการณ์อะไรจะได้วิเคราะห์ร่วมกัน แล้วก็พร้อมที่จะร่วมกันแสดงพลังเพื่อพิทักษ์ประเทศชาติ และประชาชนได้ตลอดเวลาด้วย ที่สำคัญพื้นที่ในรั้ว ม.อ. มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดแล้ว จึงอยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ และคนที่รักชาติไปร่วมกิจกรรมกัน” นายบรรจงกล่าว