นราธิวาส - ผู้จัดการฝ่ายขายภาคใต้ตอนล่าง บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) ยืนยันพร้อมส่งผู้แสวงบุญกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ มาถึง จ.นราธิวาส เที่ยวบินแรกวันที่ 23 ต.ค.56 นี้โดยสวัสดิภาพ พร้อมประสานหน่วยแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
วันนี้ (22 ต.ค.) นายนรินทร สุขเกษม ผู้จัดการฝ่ายขายภาคใต้ตอนล่าง บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ขณะนี้การเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากการไปประกอบพิธีฮัจญ์ มีความพร้อมเต็มระบบครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการให้บริการตามมาตรฐานการบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางกลับถึงภาคพื้นดิน ที่ท่าอากาศยานนราธิวาส โดยสวัสดิภาพ
ซึ่งเที่ยวบินแรกที่จะเดินทางมาจากท่าอากาศยานเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานนราธิวาส คือ ในวันที่ 23 ตุลาคม 2556 เวลา 11.40 น. และวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 07.25 น. อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางกลับครั้งนี้ได้ประสานให้ทางจังหวัดนราธิวาสนำแพทย์ และพยาบาลมาให้บริการรักษาพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการดูแลผู้ที่กลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์อย่างใกล้ชิดด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่กลุ่มผู้แสวงบุญเป็นผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ นายนรินทร ยังกล่าวถึงข้อสรุปจากการประเมินผลการให้บริการ การเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียจากท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2556 ที่ผ่านมาว่า แม้จะเป็นการให้บริการเที่ยวบินต่างประเทศ ของการบินไทยที่เดินทางจากจังหวัดนราธิวาส แต่กลับไม่พบปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า การให้บริการในครั้งนี้แม้เป็นการให้บริการเพียง 2 เที่ยวบิน เป็นเวลา 2 วัน แต่ผู้บริหารของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ให้การสนับสนุนในทุกด้านอย่างเต็มที่ โดยเมื่อมีการร้องขอสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ก็ได้รับการตอบรับ และอนุมัติให้ทันที จนสามารถนำผู้โดยสารออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานนราธิวาสได้ก่อนเวลาที่กำหนดด้วย
และจากเสียงชื่นชมที่มาจากผู้ใช้บริการ และญาติผู้แสวงบุญในครั้งนี้ ก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างมาก โอกาสนี้จึงขอชื่นชมต่อไปยังคณะทำงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดนราธิวาส ที่ให้การดูแล และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่จนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอน หลังจากที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมของระบบการขนส่งทางอากาศมาเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือน ก่อนการมาให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนราธิวาส
วันนี้ (22 ต.ค.) นายนรินทร สุขเกษม ผู้จัดการฝ่ายขายภาคใต้ตอนล่าง บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ขณะนี้การเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากการไปประกอบพิธีฮัจญ์ มีความพร้อมเต็มระบบครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งด้านบุคลากร อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการให้บริการตามมาตรฐานการบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางกลับถึงภาคพื้นดิน ที่ท่าอากาศยานนราธิวาส โดยสวัสดิภาพ
ซึ่งเที่ยวบินแรกที่จะเดินทางมาจากท่าอากาศยานเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ถึงท่าอากาศยานนราธิวาส คือ ในวันที่ 23 ตุลาคม 2556 เวลา 11.40 น. และวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 07.25 น. อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางกลับครั้งนี้ได้ประสานให้ทางจังหวัดนราธิวาสนำแพทย์ และพยาบาลมาให้บริการรักษาพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการดูแลผู้ที่กลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์อย่างใกล้ชิดด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่กลุ่มผู้แสวงบุญเป็นผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ นายนรินทร ยังกล่าวถึงข้อสรุปจากการประเมินผลการให้บริการ การเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียจากท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2556 ที่ผ่านมาว่า แม้จะเป็นการให้บริการเที่ยวบินต่างประเทศ ของการบินไทยที่เดินทางจากจังหวัดนราธิวาส แต่กลับไม่พบปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า การให้บริการในครั้งนี้แม้เป็นการให้บริการเพียง 2 เที่ยวบิน เป็นเวลา 2 วัน แต่ผู้บริหารของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ให้การสนับสนุนในทุกด้านอย่างเต็มที่ โดยเมื่อมีการร้องขอสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ก็ได้รับการตอบรับ และอนุมัติให้ทันที จนสามารถนำผู้โดยสารออกเดินทางออกจากท่าอากาศยานนราธิวาสได้ก่อนเวลาที่กำหนดด้วย
และจากเสียงชื่นชมที่มาจากผู้ใช้บริการ และญาติผู้แสวงบุญในครั้งนี้ ก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นอย่างมาก โอกาสนี้จึงขอชื่นชมต่อไปยังคณะทำงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดนราธิวาส ที่ให้การดูแล และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่จนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอน หลังจากที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมของระบบการขนส่งทางอากาศมาเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือน ก่อนการมาให้บริการผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนราธิวาส