ประธานหอฯ นราฯ เสนอเพิ่มเที่ยวบินฮัจญ์กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้

นราธิวาส - เที่ยวบินฮัจญ์ปฐมฤกษ์วันแรกคึกคัก ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 40,000 คน ร่วมส่งผู้แสวงบุญเนืองแน่น ประธานหอการค้านราธิวาสเสนอให้เพิ่มเที่ยวบินฮัจญ์กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ชาวบ้านเผยอยากให้เพิ่มเที่ยวบินพาณิชย์ภายในประเทศด้วย

วันนี้ (7 ก.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากท่าอากาศยานนราธิวาส สู่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อนำผู้แสวงบุญชาวมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจญ์ โดยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้แสวงบุญ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ หรือสนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

บรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก โดยการเดินทางของผู้แสวงบุญในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในครั้งนี้ แยกออกเป็น 2 เที่ยวบิน เที่ยวแรก มีผู้แสวงบุญ จำนวน 279 คน เดินทางออกเดินทางจากท่าอากาศยานนราธิวาส ด้วยเครื่องบินของการบินไทย ในเวลา 13.30 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเวลา 20.45 น.

และเที่ยวที่ 2 มีผู้แสวงบุญ จำนวน 197 คน ออกจากท่าอากาศยานนราธิวาส ในเวลา 16.05 น. ถึงท่าอากาศยานเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเวลา 23.15 น.ของวันเดียวกันนี้

สำหรับยอดคนไทยในปีนี้ได้โควตาเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ทั้งสิ้น 10,400 คน โดยเป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6,000 คน และมีเครือญาติมาส่ง จำนวนกว่า 40,000 คน จนแน่นท่าอากาศยานนราธิวาส

ส่วนด้านการดูแลความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับหน่ายนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส. เข้ามาดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ประตูทางเข้าสนามบิน ลานจอดรถ บริเวณตัวอาคารผู้โดยสาร และด้านในตัวอาคาร ตลอดจนการดูแลความปลอดภัยภาคพื้นก่อนที่จะมีเครื่องบินลง และเครื่องบินขึ้นทั้งหมด

นายมูฮัมหมัด สันหมาน โต๊ะอิหม่าม ม.4 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส กล่าวว่า นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้แสวงบุญในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางการเห็นความสำคัญในเรื่องของการเดินทางไปแสวงบุญที่ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยาก และเสียเวลาในการเดินทางไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยที่ผ่านมา ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะ 1 ปี ถือว่ามีครั้งเดียว และผู้แสวงบุญส่วนใหญ่จะเป็นคนมีอายุ เมื่อทางการอำนวยความสะดวกเช่นนี้ ก็ขอให้ผลบุญในครั้งนี้ได้รับกันทั่วหน้า

นอกจากนี้ แล้วนายมูฮัมหมัด สันหมาน โต๊ะอิหม่าม ม.4 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส กล่าวอีกว่า เมื่อท่าอากาศยานนราธิวาส ได้มีการขยับขยายรันเวย์จนเครื่องบินขนาดใหญ่สามารถลงจอดรับส่งผู้โดยสารได้สะดวกแล้ว จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวคิดที่จะให้สายการบินต่างๆ ที่สนใจลงมาให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งปัจจุบันไม่มีตัวเลือก แถมมีเพียงวันละ 1 เที่ยวบิน ถ้าผู้โดยสารตกเครื่องก็ต้องเดินทางไปใช้บริการที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งต้องเสียทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายโดยไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้

ด้านนางกอรียะ เล็งฮะ หนึ่งในผู้จะเดินทางแสวงบุญซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยจะเดินทางเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจแทนคน 3 จังหวัดชายแดนภาใต้มาก และขอบคุณรัฐบาลยุคนี้ที่ทำให้ความฝันของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจริง เพราะการเดินทางไปขึ้นเครื่องบินในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือจังหวัดอื่นๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มทวีคูณ ญาติพี่น้องประชาชนที่ไปส่งผู้จะแสงบุญต่างก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายที่เสียไปตกไปยังจังหวัดอื่น แต่เมื่อมีเที่ยวบินฮัจญ์ที่ จ.นราธิวาส ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เงินที่ใช้ไปได้ประโยชน์หมุนเวียนแก่คนในพื้นที่ จึงเห็นควรอย่างยิ่งที่จะให้รัฐบาลสนับสนุน และเพิ่มเที่ยวบินฮัจญ์ให้มากขึ้นในปีถัดไป เพราะนี่คือความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง

ด้านนายศรัญ วงศ์ศัตบงกช ประธานหอการค้า จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า แม้ตนจะเป็นชาวไทยพุทธ แต่ขอแสดงความดีใจต่อชาวไทยมุสิลมที่เป็นผู้แสวงบุญ และชาวนราธิวาสทุกคน รวมถึงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ฮัจญ์ตรงจาก จ.นราธิวาส ไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จะเห็นว่าในครั้งนี้มีผู้แสวงบุญ 476 คน แต่มีญาติ พี่น้อง และชาวบ้านมาส่งเกือบ 50,000 คนในวันเดียว

“การจัดเที่ยวบินที่ จ.นราธิวาส นอกจากประชาชนในพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไกล ไม่เสียเวลาแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ประชาชนจะต้องสูญเสียไปเพื่อจับจ่ายซื้อของ และอื่นๆ เงินทั้งหมดถือว่าจะเกิดประโยชน์หมุนเวียนในพื้นที่ โดยในห้วงที่ผ่านมา คนในพื้นที่ไปใช้จ่ายให้จังหวัดอื่นๆ มานานนับสิบๆ ปีแล้ว จึงนับได้ว่าหากครั้งต่อไปถ้ากระทรวงคมนาคม เพิ่มเที่ยวบินฮัจญ์ นราธิวาส-ซาอุดีอาระเบีย ได้มากขึ้น จ.นราธิวาส จะก็เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นด้วย” ประธานหอการค้า จ.นราธิวาส กล่าว