นราธิวาส - องค์กรมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงจุดยืนส่งเงินช่วยเหลือชาวซีเรีย และอียิปต์ กว่า 10 ล้านบาท เพื่อมนุษยธรรมโลกมุสลิม พร้อมระบุรัฐบาลยังไม่จริงใจแก้ปัญหาสันติภาพใต้
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารสถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายเมธา เมฆารัฐ ประธานองค์กรมุสลิม เพื่อสันติสุขเครือข่ายอามานะห์นราธิวาส นายมัสลัน มาหะมะ รองอธีการบดี มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา และนายอับดุลอาซิ เจะมามะ รองประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส ร่วมกันแถลงข่าวความสำเร็จการจัดโครงการ “มองโลกมุสลิม สันติภาพชายแดนใต้ สู่ซีเรียและอียิปต์” เพื่อนำเงินบริจาคของพี่น้องประชาชนชาวไทยมุสลิม ส่งช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวซีเรีย และอียิปต์
นายมัสลัน มาหะมะ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือชาวซีเรียและอียิปต์ในห้วงที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวนราธิวาส บริจาคเป็นเงินทั้งสิ้น 633,778 บาท และร่วมกับองค์กร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และองค์กรมุสลิมไทย รวมยอดทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาทเศษ โดยเงินทั้งหมดจะส่งไปช่วยเหลือประชาชนที่ประเทศซีเรีย และอียีปต์ ที่ประสบปัญหาเนื่องจากภัยสงครามกลางเมืองในประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศซีเรีย ล่าสุดพบตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็ ผู้ใหญ่ สตรี และคนชรา รวมกว่า 3 แสนคน และมีผู้อพยพหนีภัยสงคราม ทั้งในประเทศ และหนีออกนอกประเทศ รวม 7 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันยังมีสงครามการเข่นฆ่า และไม่ยุติ ทางองค์กรมุสลิมในประเทศไทยจึงจะเดินไปไปในพื้นที่ และจะส่งมองเงินผ่านองค์กรสันนิบาติ โลกมุสลิม หรือรอบีเตาะ ซึ่งปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม และสาธารณกุศล ที่ตั้งอยู่ในประเทศซาอุดีอารเบีย โดยเงินที่จะมอบในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวซีเรียและอียิปต์ ในด้านอุปกรณ์การแพทย์ และอาหาร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้ออาวุธแต่อย่างใดทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องชี้แจ้ง เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ นำข้อมูลโยงปัญหาความมั่นคงที่ไม่เป็นธรรม
ด้าน นายเมธา เมฆารัฐ ประธานองค์กรมุสลิม เพื่อสันติ ฯ นราธิวาส กล่าวว่า มุสลิมทั่วโลกคือพี่น้องกัน และเป็นเรือนร่างเดียวกัน จึงต้องช่วยเหลือ แต่ไม่ได้หมายถึงเรานิ่งเฉย และไม่มองบ้านเราพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความรุนแรงจะเข้าปี ที่ 10 แล้ว ยังไม่คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น องค์กรมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สนับสนุนกระบวนการสร้างสันติภาพของรัฐบาลและการเจรจา กลุ่มผู้เห็นต่าง อาทิ กลุ่ม BRN แต่ที่ผ่านมารัฐและคณะทำงานเจรจายังขาดความจริงใจ เพราะการเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นภาคประชาชนแทบจะไม่มีเลย อำนาจการตัดสินใจชะตาชีวิตคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในมือคนไม่กี่คน
“และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าการเจรจาเพื่อสันติภาพเดินทางมาถูกทางแล้ว แต่ขาดอีกหลายปัจจัยหลักที่รัฐจะแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ อาทิ การไม่เปิดโอกาสและเปิดพื้นที่กับภาคประชาชนรับฟังข้อเสนอแนะในการร่วมสร้างสันติภาพ รวมถึงการเจรจาสันติภาพ มีองค์ประกอบที่ไม่ครบ เช่น มีตัวกลางประเทศมาเลเซีย เปรียบเทียบเป็นกรรมการ และตัวแทนไทย และ BRN เป็นคู่เจรจา แต่ไม่มีประเทศไหนเป็นสักขีพยาน ซึ่งต้องใช้ประเทศที่เป็นกลางอย่างน้อย 7 ประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการเจรจาที่ยังขาดความจริงใจ 30 ปี ความสันติสุขจะเกิดขึ้นได้หรือไม่” นายเมธา กล่าว