ยกเลิกสัมปทานลิมูซีนท่าฯ ภูเก็ต ไม่ตอบโจทก์แก้ปัญหาแท็กซี่ป้ายดำ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - การท่าฯ ยกเลิกสัมปทานลิมูซีนในท่าอากาศยานภูเก็ต หลังสิ้นสุดสัญญา 30 พ.ย.นี้ ดึงมาทำเองให้รถลิมูซีนที่ได้สัมปทานมารับจ้างขึ้นทะเบียนกับการท่าฯ เรียกเก็บค่าตอบแทนร้อยละ 15 หลายฝ่ายติงไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาแท็กซี่ป้ายดำของจังหวัด เพราะไม่เหลือโควตาให้รถป้ายเขียวจากที่อื่นเข้าร่วม

วันนี้ (11 ต.ค.) นายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเรื่องการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมี น.อ.วิสูธ จันทนา น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ผู้อำนวยการฝ่ายต่างๆ นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอถลาง นายจาตุรงค์ แก้วกสิ นักวิชาการขนส่ง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จากสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาภูเก็ต ผู้ประกอบการรถลิมูซีน และแท็กซี่มิเตอร์ในท่าอากาศยานภูเก็ต เข้าร่วม

น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่สัญญาสัมปทานกับทางสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจ ภูเก็ต จำกัด และบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัด บริษัท ภูเก็ต แท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท เดวิด คาร์ เรนท์ จำกัด และบริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.2556 นี้ และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจังหวัดภูเก็ต ในการจัดระเบียบรถรับจ้างที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยว และแก้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำ ทางบริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนการให้บริการรถรับจ้างในท่าอากาศยานภูเก็ตใหม่ที่จากเดิมที่ให้สัมปทานแก่ทางสหกรณ์ฯ จำนวนรถ 180 คัน ค่าตอบแทนเดือนละ 1,520,870 บาท และบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาวฯ รถบริการ 110 คัน ในวงเงิน 1,518,240 บาท บริษัท ภูเก็ตแท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส จำกัด รถบริการ 80 คัน ค่าตอบแทนเดือนละ 61,130 บาท บริษัท เดวิท คาร์ เรนท์ จำกัด รถบริการยี่ห้อเบนซ์ และ BMW จำนวน 5 คัน ค่าตอบแทนเดือนละ 95,230 บาท และบริษัท ภูเก็ตมหานคร จำกัด ให้บริการรถยนต์ Airport Bus ทาง ทอท.ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่า และค่าผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อสนับสนุนนโยบายรถโดยสารสาธารณะจากท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังตัวเมืองภูเก็ต และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยว เป็นการให้รถยนต์ที่ให้บริการมาขึ้นทะเบียนกับ ทอท.โดยตรง โดยทาง ทอท.เรียกค่าตอบแทนในรูปแบบร้อยละของค่าโดยสาร ร้อยละ 15 ต่อเที่ยว

โดยกำหนดจำนวนรถยนต์ไว้ที่ 420 คัน และสำรองคิว 80 คัน ซึ่งรถยนต์ที่จะนำมาให้บริการรับผู้โดยสารในจำนวน 420 คันนั้น แบ่งเป็นรถลิมูซีน 340 คัน แท็กซี่มิเตอร์ 80 ตัน ทาง ทอท.จะให้สิทธิผู้รับสัมปทานรายเดิมก่อน คือ สหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจ ภูเก็ต จำกัด และบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัด บริษัท ภูเก็ต แท็กซี่มิเตอร์ เซอร์วิส เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้รับสัมปทานรายเดิม ซึ่งจะให้มาแจ้งขึ้นทะเบียนกับ ทอท.ภายใน 30 ต.ค.นี้ รถยนต์ที่จะนำมาขึ้นทะเบียนได้จะต้องมีเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,950 ซีซีขึ้นไป รถทุกคนจะต้องติดตั้ง GPS และวิทยุสื่อสาร เครื่องแบบผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล

ส่วนค่าโดยสารนั้นต้องเป็นไปตามประกาศของขนส่งจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำหนดโดยมติคณะกรรมการพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ สำหรับรถยนต์สาธารณะ และรถยนต์บริการ จังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 (ป้ายเขียว) ส่วนแท็กซี่มิเตอร์นั้น เป็นไปตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (TAXI METER) ในจังหวัดภูเก็ต คือ ระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก 50 บาท เกิน 2 กิโลเมตร ถึง 15 กิโลเมตร กิโลเมตรละ 12 บาท เกิน 15 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10 บาท

โดยการบริหารจัดการนั้น ทาง ทอท.จะจ้างบริษัท Outsouce บริหารจัดการ ภายใต้การกำกับดูแลของ ทอท. โดยกำหนด TOR ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และการดำเนินงานของ ทอท.

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเงื่อนไขในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนรายละเอียดต่างๆ นั้น ทาง ทอท.จะแต่งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นสุดสัมปทานในปลายเดือน พ.ย.นี้

ด้านนายจาตุรงค์ แก้วกสิ นักวิชการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รูปแบบการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะของท่าอากาศยานยังไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหารถรับจ้างภายในท่าอากาศยานภูเก็ตทั้งหมด รูปแบบที่กำหนดขึ้นมายังไม่ครอบคลุมถึงนโยบายของจังหวัดภูเก็ตในการแก้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำ จึงอยากจะให้ ทอท.พิจารณาในการเพิ่มรถรับจ้างที่ไม่ใช่รถที่ได้รับสัมปทานเดิมให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะให้เข้ามาในลักษณะของแท็กซี่มิเตอร์ให้มากขึ้น ที่ทางจังหวัดภูเก็ตกำลังดำเนินการในการปรับเปลี่ยนรถรับจ้างป้ายเขียวให้แท็กซี่มิเตอร์ และมีการปรับราคาให้สูงขึ้น เพื่อจูงใจให้เปลี่ยนเป็นแท็กซี่มิเตอร์กันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่ารูปแบบการให้บริการรถในท่าอากาศยานภูเก็ตที่ทาง ทอท.กำลังจะดำเนินการปรับเปลี่ยนใหม่ น่าที่จะสอดรับกับการแก้ปัญหา และการจัดระเบียบรถรับจ้างของจังหวัดภูเก็ต และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬ่า รวมทั้งดีเอสไอให้มากกว่านี้ เพราะรูปแบบที่ ทอท.กำหนดในเบื้องต้นไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้ รวมทั้งให้คำนึงถึงคนที่ให้บริการนักท่องเที่ยวให้มีความสุภาพ สื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้มากกว่านี้