กระบี่ - ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน ลุยจับเรือประมงอวนลากลักลอบทำประมงในเขตห้วงห้ามกระบี่ รวบทันควันเรืออวนลาก 4 ลำ พร้อมลูกเรือชาวพม่า 18 คน ด้าน ผวจ.กระบี่ เผยเรือทุกลำที่จับกุมมีสัญญาเช่า ไร้กฎหมายเอาผิด จี้กรมประมงเร่งแก้กฎหมายให้ทันสมัย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (7 ต.ค.) นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ ได้รับแจ้งว่า มีเรือประมงอวนลากเข้ามาทำประมงในเขตหวงห้ามบริเวณหลังเกาะไผ่ ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จึงได้สั่งการให้นายชูชาติ สาหร่าย นายท้ายกล ชายทะเล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ออกทำการตรวจสอบ พบเรืออวนลากคู่ 2 คู่ 4 ลำ กำลังทำประมงในเขตหวงห้าม จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ประกอบด้วย เรือพิชัยนำลาภ 1 เรือพิชัยนำลาภ 2 เรือเคียงชัย 7 และ เรือ ป.พิชัยนาวา 5 พร้อมผู้ต้องหา รวม 18 คน แบ่งเป็นคนไทย 4 คน พม่า 14 คน โดยมี นายสมพงศ์ อินเทศ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/52 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายสารี คำมะลัย อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 5/45 ถนนศักดิ์เดช ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นไต้ก๋งเรือ
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเครือข่ายชาวประมงพื้นที่บ้านว่า ได้มีเรือประมงอวนลากคู่เข้ามาลักลอบทำประมงในบริเวณเกาะยูง ด้านทิศตะวันตกของเกาะไม้ไผ่ ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในเขตห้ามทำประมงด้วยเครื่องมือจับสัตว์น้ำผิดกฎหมาย จึงได้เรือนำเรือตรวจการณ์ประมงทะเล 606 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 นาย เข้าทำการตรวจสอบ ระหว่างเดินทางมีฝนตกหนัก คลื่นลมแรงคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก
เมื่อไปถึงพบเรืออวนลากคู่ทั้ง 2 คู่รวม 4 ลำ กำลังทำประมงในเขตหวงห้าม จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาทำผิด พ.ร.บ.ประมง ฐานร่วมกันลักลอบทำประมงในเขตห้ามจับสัตว์น้ำบางแห่งของจังหวัดกระบี่ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งเข้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังเรือประมงเข้ามาทำผิดกฎหมายในพื้นที่ท้องทะเลของจังหวัดกระบี่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลท้องทะเลกระบี่เป็นพิเศษ เพื่ออนุรักษ์พันธ์น้ำทะเลให้อยู่คู่จังหวัดกระบี่ตลอดไป และที่ผ่านมาได้มีเรือประมงอวนลากจากต่างถิ่นเข้ามาทำประมงผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการประมงกระบี่ สามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อส่งดำเนินคดีแล้วปรากฏว่า ผู้กระทำผิดลอยนวลทุกครั้ง เนื่องจากเรือทุกลำที่จับกุมได้พบว่า มีสัญญาเช่าทุกลำซึ่งเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามไม่มีวันหมด และยิ่งนานวันผู้กระทำผิดก็ยิ่งได้ใจ เพราะเรือมีสัญญาเช่า สิ่งเดียวที่จะทำให้เรือประมงเหล่านี้เข็ดหลาบก็คือ กรมประมงต้องแก้กฎหมายใหม่ให้ทันสมัย เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้เป็นกฎหมายตั้งแต่ปี 2495 อย่างไรก็ตาม ทราบว่าขณะเข้าทำการจับกุมในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายธนศักดิ์ นมัธยา ตำแหน่งกะลาสีเรือ
