ตรัง - ร้านค้าในตลาดเทศบาลนครตรังร้องสื่อ มีพระรูปหนึ่งทำทีเข้ามาเรี่ยไรเงิน แต่เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยล่าสุดได้กระชากกระเป๋าเงินเสมียนสาว คาดเป็นโจรในคราบผ้าเหลือง เผยแจ้งความแล้วเรื่องก็เงียบ
วันนี้ (2 ต.ค.) นางโสภิดา ศิริมา อายุ 32 ปี เสมียนร้านอินเตอร์เฟอร์นิเจอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 102/8 ริมถนนตรัง-ปะเหลียน หมู่ที่ 2 ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ หน้าห้างเทสโก้ โลตัส สาขาตรัง ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.15 น. ของวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเพียงลำพังได้มีพระรูปหนึ่งอายุประมาณ 45 ปี สูงประมาณ 150-155 เซนติเมตร ผิวดำ พูดสำเนียงออกภาษาใต้แบบเหน่อๆ ถือซองทอดผ้าป่าสามัคคีของวัดแห่งหนึ่งใน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เดินเข้ามาหา
โดยพระรูปดังกล่าวบอกว่า เป็นตัวแทนของทางวัดเพื่อมาขอเรี่ยไร่ทำบุญ ตนจึงหยิบกระเป๋าเงินที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมา ซึ่งภายในมีเงินสดอยู่ประมาณ 20,000 บาท โดยตนเตรียมที่จะนำไปผ่อนรถยนต์ จากนั้นได้หยิบแบงก์ 50 บาท ออกมา 1 ใบ แล้วยื่นให้ เนื่องจากก่อนหน้านี้พระรูปดังกล่าวก็เคยมาขอเรี่ยไรเงินที่ร้านแล้ว 3 ครั้ง และตนก็เคยทำบุญให้ไปครั้งละ 20 บาท แต่ปรากฎว่า พระรูปดังกล่าวกลับพูดว่า “ร้านตั้งใหญ่ แต่ทำไมทำบุญน้อยจัง” แล้วเดินตรงเข้ามากระชากกระเป๋าเงิน แต่ตนยื้อแย่งกลับมาได้
ต่อจากนั้น พระรูปดังกล่าวได้เดินอ้อมเข้ามาหลังโต๊ะทำงาน และแสดงท่าทางจะกระชากกระเป๋าเงินอีกครั้ง ตนจึงรีบคว้าโทรศัพท์มือถือแล้วกดไปที่หมายเลข 191 พร้อมเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ได้ยินว่ากำลังแจ้งเหตุร้ายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังหยิบไม้กระดานที่วางอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาถือไว้เพื่อป้องกันตัว ทำให้พระรูปดังกล่าวรีบวิ่งออกไปจากร้านเพื่อไปขึ้นรถยนต์ซึ่งมีคนขับนั่งรออยู่ แล้วขับหลบหนีไป โดยตนจำได้เพียงว่าเป็นรถกระบะสภาพเก่าชนิดตอนครึ่ง สีแดงเลือดหมู หมายเลขทะเบียน 4592 ลพบุรี
อย่างไรก็ตาม นางโสภิดา ผู้เสียหาย ได้ลองโทรศัพท์ไปยัง 2 เลขหมายที่พระรูปดังกล่าวเขียนเอาไว้ในซองทอดผ้าป่าสามัคคี ปรากฏว่า เลขหมายแรกเป็นของผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรกับการเรี่ยไรที่เกิดขึ้น ส่วนอีกเลขหมาย ซึ่งผู้เสียหายได้ลองโทรศัพท์เข้าไปตรวจสอบดูต่อหน้าผู้สื่อข่าวนั้น บอกว่าตนเองเป็นเจ้าอาวาส และยอมรับว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “จุ๋ม” ได้ขออาสาเป็นตัวแทนวัดเพื่อออกไปเรี่ยไรให้ ส่วนพระสงฆ์ และรถกระบะคันดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางวัดทั้งนั้น
นางโสภิดา กล่าวว่า จากการที่ตนสอบถามไปยังร้านต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรังหลายแห่งก็เคยถูกพระรูปนี้เข้าไปเรี่ยไร และกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยมีลักษณะท่าทางในการดำเนินการคล้ายกัน ยกเว้นเฉพาะร้านของตนที่ถึงขั้นเข้ามากระชากกระเป๋าเงิน จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นพระปลอมที่อาศัยคราบผ้าเหลืองออกมาหากิน และหากร้านใดมีคนน้อย หรืออยู่เพียงลำพังก็จะลงมือชิงทรัพย์ หรือลักทรัพย์ ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สนใจในปัญหานี้ ขนาดโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุแล้วก็หายเงียบ
