ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การภูเก็ต เตรียมเรียกประชุมรองผู้บังคับการ-หัวหน้าสถานีทุกแห่ง ระดมความเห็นตั้งด่านตรวจป้องกันเหตุร้าย หลังตำรวจกะทู้รวบหนุ่มต่างชาติแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง หลังมีเรื่องกับคิวแท็กซี่หน้าโรงแรมดัง พร้อมระบุลงพื้นที่มา 2 วัน ยังไม่มีการตั้งด่านตรวจเหตุจะกระทบท่องเที่ยว
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จับกุม นายแกรี พอลติง ชาวออสเตรเลีย ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังมีปัญหากระทบกระทั่งกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่หน้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์สปา กรณีเข้าไปรับนักท่องเที่ยวในโรงแรมในดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ แต่ผู้ประกอบการได้ตะโกนให้แจ้งตำรวจ หลังทราบว่ามีการแจ้งตำรวจชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้ขึ้นรถกระบะฟอร์ดสีส้ม ป้ายแดง ฐ 8530 กรุงเทพมหานคร เพื่อหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้บริเวณวงเวียนสามแยกกะหลิม ต.ป่าตอง พร้อมด้วยของกลางปืน จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดี ส่วนอาวุธปืนดังกล่าวได้ส่งไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่มีความรุนแรงหรือไม่
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับคดีความต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่เรื่องการพกพาอาวุธปืนในเมืองท่องเที่ยวนั้นเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติ ซึ่งเร็วๆ นี้จะเรียกประชุมรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และผู้กำกับการสถานีหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่ง เพื่อกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องของการตั้งด่านตรวจ ซึ่งในช่วงที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังไม่พบว่ามีการตั้งด่านตรวจแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวถ้ามีการตั้งด่านตรวจมากๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้ ทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดอ่อน
ซึ่งในเรื่องของการตั้งจุดตรวจนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่จะต้องมาพูดคุยกันถึงจุดที่จะตั้งว่าควรจะตั้งจุดไหนอย่างไร เพื่อตรวจสอบป้องกันการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพราะถ้ามีจุดตรวจจุดสกัดคนที่จะทำความผิด หรือคนที่จะพกพาอาวุธปืนไปไหนมาไหนโดยไม่ได้รับอนุญาตก็คงไม่กล้า หรือแม้แต่เรื่องของอาวุธอื่นๆ รวมทั้งเรื่องของยาเสพติดซึ่งปัญหาสำคัญ และเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้กำลังใกล้ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จับกุม นายแกรี พอลติง ชาวออสเตรเลีย ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังมีปัญหากระทบกระทั่งกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่หน้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์สปา กรณีเข้าไปรับนักท่องเที่ยวในโรงแรมในดังกล่าว โดยผู้ต้องหาได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ แต่ผู้ประกอบการได้ตะโกนให้แจ้งตำรวจ หลังทราบว่ามีการแจ้งตำรวจชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้ขึ้นรถกระบะฟอร์ดสีส้ม ป้ายแดง ฐ 8530 กรุงเทพมหานคร เพื่อหลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้บริเวณวงเวียนสามแยกกะหลิม ต.ป่าตอง พร้อมด้วยของกลางปืน จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดี ส่วนอาวุธปืนดังกล่าวได้ส่งไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนที่มีความรุนแรงหรือไม่
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับคดีความต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่เรื่องการพกพาอาวุธปืนในเมืองท่องเที่ยวนั้นเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติ ซึ่งเร็วๆ นี้จะเรียกประชุมรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และผู้กำกับการสถานีหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่ง เพื่อกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องของการตั้งด่านตรวจ ซึ่งในช่วงที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังไม่พบว่ามีการตั้งด่านตรวจแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวถ้ามีการตั้งด่านตรวจมากๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้ ทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดอ่อน
ซึ่งในเรื่องของการตั้งจุดตรวจนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่จะต้องมาพูดคุยกันถึงจุดที่จะตั้งว่าควรจะตั้งจุดไหนอย่างไร เพื่อตรวจสอบป้องกันการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพราะถ้ามีจุดตรวจจุดสกัดคนที่จะทำความผิด หรือคนที่จะพกพาอาวุธปืนไปไหนมาไหนโดยไม่ได้รับอนุญาตก็คงไม่กล้า หรือแม้แต่เรื่องของอาวุธอื่นๆ รวมทั้งเรื่องของยาเสพติดซึ่งปัญหาสำคัญ และเรื่องของการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้กำลังใกล้ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
