ยะลา - โกงกันทั่วหัวระแหง ชาวบ้านลือหึ่ง มีข้าราชการหัวใสเรียกเก็บหัวคิวค่าอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเจ้าของสวนผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ จ.ยะลา อ้างเป็นพื้นที่สีแดง ทางหน่วยงานลงมาไม่ทั่วถึง คิดค่าเดินเรื่องรายละ 2,000 บาท
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ศาลาอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอรามัน จ.ยะลา เกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้เดินทางมาลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารากันเป็นจำนวนมาก หลังจากที่รัฐบาลได้มีมติให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต และเป็นเงินชดเชยแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในอัตรา 2,520 บาทต่อไร่ โดยมีเจ้าหน้าที่ของเกษตรอำเภอรามัน คอยดูแลอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรฯ ที่มารอขึ้นทะเบียน
นางลำยอง พูนศิลป์ เกษตรอำเภอรามัน กล่าวว่า สนง.เกษตร อ.รามัน ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราที่มีสวนยางที่ให้ผลผลิตแล้ว ที่เปิดกรีดอายุยางไม่เกิน 25 ปี ให้มาขึ้นทะเบียนผู้ปลูกยางพารา เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลที่ช่วยเป็นค่าปัจจัยการผลิต ไร่ละ 2,520 บาท โดย 1 ครัวเรือนไม่เกิน 25 ไร่ ซึ่งพื้นที่อำเภอรามันนั้น มีเนื้อที่ปลูกยางพารากว่า 154,151 ไร่ คาดว่า จะมีเกษตรกรมาลงทะเบียนในวันนี้ไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประชาสัมพันธ์เป็นใบปลิว รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านที่มีพื้นที่ปลูกยางพารานำหลักฐานมาขึ้นทะเบียนตามกำหนด
สำหรับการขึ้นทะเบียนยางพารานั้น เกษตรกรจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรก่อน แต่หากเกษตรกรรายใดยังไม่ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร ทางกรมส่งเสริมการเกษตรฯ ก็เปิดให้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรก่อนจะขึ้นทะเบียนยางพารา
“ปัญหาที่พบในการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ คือ ปัญหาด้านการสื่อสาร การพูดคุยสอบถาม การเขียนเอกสาร กรอกข้อมูล ซึ่งเกษตรกรบางรายพูดภาษาไทยไม่ได้เลย เขียนภาษาไทยไม่ได้เลย ทางเกษตรอำเภอจึงต้องจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ และเป็นคนในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ” เกษตรอำเภอรามันกล่าว
ในส่วนของจังหวัดยะลานั้น มีพื้นที่การปลูกยางพารารวมทั้งสิ้น ประมาณ 1,355,031 ไร่ มีเกษตรกรที่ปลูกยางพารากว่า 49,000 กว่าราย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีเกษตรกรบางรายในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา แจ้งว่า มีข้าราชการของหน่วยงานรัฐบางหน่วยได้เรียกค่าตอบแทนในการดำเนินเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราหากการขึ้นทะเบียนผ่าน และได้รับเงินตามที่รัฐบาลแจ้งคือไร่ละ 2,520 บาท โดยผู้ดำเนินการขอเก็บค่าหัวคิวจากเกษตรกรที่ผ่านมารายละ 2,000 บาทต่อหัว สาเหตุเพราะบางพื้นที่ห่างไกล และเป็นพื้นที่สีแดง พื้นที่อันตราย เจ้าหน้าที่บางนายไม่กล้าลงพื้นที่ไปตรวจสอบสวนยางพาราเนื่องจากเกรงกลัวอันตราย จึงทำให้ข้าราชการหัวใสของบางหน่วยงาน ขอคิดค่าหัวคิวจากเกษตรกรที่จะขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อรับเงินชดเชยจากรัฐบาล
