เผยตัวเลขขึ้นทะเบียนชาวสวนยางแค่ร้อยละ 62 รมต.สำนักนายกฯ-รมช.เกษตรฯ ย้ำให้เร่งยื่นขอรับเงินช่วยเหลือด่วน ก่อนหมดเวลา 30 ก.ย.นี้ อ้างนายอำเภอชะอวด นครศรีธรรมราช ร้องถูกวัยรุ่นขวางการปฏิบัติหน้าที่ขึ้นทะเบียน
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงแผนการแก้ปัญหายางพาราในระยะยาง ทั้งการสนับสนุนเกษตรกร ให้รวมกลุ่มในรูปแบบสหกรณ์ ลงทุนแปรรูปวัตถุดิบเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ในกรอบวงเงิน 5 พันล้านบาท ที่ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้จัดเตรียมเงินกู้ดอกเบี้ยผ่อนปรน การสนับสนุนภาคธุรกิจที่จะผลิตสินค้าสำเร็จรูปทั้งสินค้าใหม่ หรือปรับปรุงเครื่องจักร ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และการให้กรมส่งเสริมการเกษตร เข้าไปดูแลเกษตรกรในการปลูกพืชแซม เพื่อสร้างรายได้เสริม ซึ่งทั้ง 3 เรื่องมีคืบหน้าไปได้ด้วยดี
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า ยังได้มีการรายงานเรื่องของกลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ที่ปัจจุบันมีสภาพคล่องไม่มากนัก และมีการซื้อขายเฉพาะยางแผ่นรมควัน ขณะที่แนวโน้มการใช้สินค้ายางพารา ในอนาคตจะมีการใช้ยางแท่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้แทนของตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าก็รับไปพิจารณา รวมถึงการสร้างตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรกลางเพิ่มขึ้นเพื่อความโปร่งใส และการเทียบเคียงราคาได้ เพราะขณะนี้มีการปลูกยางพาราทั่วประเทศแล้ว และในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานการลงทะเบียนของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่จะรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ว่ามีผู้ลงทะเบียนแล้วมากกว่า 3 ใน 4 หากมีเกษตรกรมาลงทะเบียนไม่ทัน 30 ก.ย.นี้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ก็จะขยายเวลาให้
เมื่อถามว่าการปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท จะมีการชดเชยดอกเบี้ยเท่าไร นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เป็นอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนแน่นอน แต่ขอดูโครงการให้ครบถ้วนเสียก่อน หากเป็นโครงการที่มีผลตอบแทนที่ดีตามสมควร การผ่อนปรนดอกเบี้ยก็จะทำในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นโครงการที่มีผลตอบแทนที่ดีมาก แต่ว่าผลตอบแทนระยะสั้น ผลตอบแทนระยะกลางไม่ดีนัก รัฐบาลก็จะต้องช่วยเหลือในการตั้งงบประมาณมาดูแลดอกเบี้ยส่วนนี้ให้มากขึ้น แต่จะขอดูเนื้อโครงการและจะสรุปโครงการในการประชุมครั้งหน้าในช่วงเดือน ต.ค.ต่อไป
ด้าน นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราว่า จากกรณีที่รัฐบาลเปิดให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราขึ้นทะเบียนขอรับเงินสนับสนุนปัจจัยการผลิต ล่าสุดเกษตรกรชาวสวนยาพารา มายื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราจำนวน 730,638 ครัวเรือน หรือร้อยละ 62.12 จากประมาณการทั้งหมด 70 จังหวัด ซึ่งมีจำนวน 1,176,145 ครัวเรือน
โดยทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนได้ส่งข้อมูลให้แก่คณะกรรมการเปิดกรีดระดับตำบล เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ก่อนออกใบรับรอง และส่งข้อมูลให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เพื่อดำเนินการจ่ายเงินแก่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราต่อไป และเมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา เกษตรกรยางพารา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับเงินช่วยเหลือตามมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราไปแล้ว ทั้งนี้ขอให้เกษตรกรที่เหลือเร่งไปดำเนินการยื่นขอขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับการช่วยเหลือในจุดที่รัฐบาลกำหนดไว้ ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ทาง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีหนังสือรายงานมายังรัฐบาล ว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2556 เกษตรพื้นที่พร้อมคณะกรรมการขึ้นทะเบียนเกษตรได้ลงพื้นที่ ต.ควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราชเพื่อรับการขึ้นทะเบียนของเกษตรกรชาวสวนยาง แต่ปรากฏมีกลุ่มวัยรุ่นพยายามขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการขึ้นทะเบียน ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยข่มขู่ใช้จักรยานยนต์ส่งเสียงดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงเกิดความไม่ปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้านจึงสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และออกจากหมู่บ้าน ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้เกษตรมาลงทะเบียนไม่สะดวก