ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ค้าใน จ.สงขลา ยึดอาชีพการทำขนมเทียน ขนมไทยพื้นบ้านโดยใช้วิธีนึ่งด้วยเตาไม้ฟืนแบบธรรมชาติมานานนับ 10 ปี ลดต้นทุนการผลิตทั้งค่าแก๊ส และวัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้น และยังเป็นขนมไทยที่ขายได้ตลอดโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลบุญของไทย และของจีน
คุณจิตรา ภักดีวานิช อายุ 56 ปี แม่ค้าขายขนมในตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา ยังคงยึดอาชีพทำขนมเทียน ขนมไทยพื้นบ้านมานานกว่า10 ปี โดยใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิมคือ นึ่งโดยใช้ไม้ฟืนตามธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป และส่วนใหญ่จะหันมาใช้วิธีนึ่งด้วยแก๊ส หรือตู้อบไฟฟ้า ซึ่งขนมเทียนที่นึ่งด้วยเตาไม้ฟืนจะมีรดชาติดี เนื้อเนียนนุ่มเป็นที่ต้องการของลูกค้า เพราะความร้อนของไฟไม้ฟืนจะสม่ำเสมอ และออนกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ
คุณจิตรา บอกว่า การนึ่งขนมเทียนด้วยเตาไม้ฟืนช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มาก โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ข้าวของทุกอย่างมีราคาแพง โดยเฉพาะหากใช้แก๊สหุงต้มซึ่งมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการทำขนมเทียนแต่ละครั้งต้องใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมาก และนาน การใช้ไม้ฟืนจึงประหยัดกว่า
เช่นเดียวกับวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะซื้อมาทำเองแทนของสำเร็จรูป เช่น ข้าวเหนียว ราคากระสอบละ 1,650 บาท จะซื้อมาเป็นข้าวเหนียวแล้วนำมาบดเป็นแป้งเอง ส่วนมะพร้าวลูกละ 20 บาท ก็นำมาขูดเอง ส่วนราคาใบตอง ทางละ 3 บาท ทำให้ยังพออยู่ได้ โดยขนมเทียนที่ตนทำจะมี 2 แบบ คือไส้หวาน และไส้เค็ม ขายห่อละ 4-5 บาท แล้วแต่ช่วงเทศกาล
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าขาประจำ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลเดือนสิบของชาวใต้จะขายดีเพราะขนมเทียนเป็นหนึ่งในขนมที่นิยมนำไปประกอบพิธี รวมถึงเทศกาล และประเพณีงานบุญต่างๆ ทั้งชาวไทย และชาวจีนก็นิยมนำขนมเทียนไปประกอบพิธีเช่นกัน
คุณจิตรา ภักดีวานิช อายุ 56 ปี แม่ค้าขายขนมในตลาดทรัพย์สินพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา ยังคงยึดอาชีพทำขนมเทียน ขนมไทยพื้นบ้านมานานกว่า10 ปี โดยใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิมคือ นึ่งโดยใช้ไม้ฟืนตามธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไป และส่วนใหญ่จะหันมาใช้วิธีนึ่งด้วยแก๊ส หรือตู้อบไฟฟ้า ซึ่งขนมเทียนที่นึ่งด้วยเตาไม้ฟืนจะมีรดชาติดี เนื้อเนียนนุ่มเป็นที่ต้องการของลูกค้า เพราะความร้อนของไฟไม้ฟืนจะสม่ำเสมอ และออนกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ
คุณจิตรา บอกว่า การนึ่งขนมเทียนด้วยเตาไม้ฟืนช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มาก โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ข้าวของทุกอย่างมีราคาแพง โดยเฉพาะหากใช้แก๊สหุงต้มซึ่งมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการทำขนมเทียนแต่ละครั้งต้องใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมาก และนาน การใช้ไม้ฟืนจึงประหยัดกว่า
เช่นเดียวกับวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะซื้อมาทำเองแทนของสำเร็จรูป เช่น ข้าวเหนียว ราคากระสอบละ 1,650 บาท จะซื้อมาเป็นข้าวเหนียวแล้วนำมาบดเป็นแป้งเอง ส่วนมะพร้าวลูกละ 20 บาท ก็นำมาขูดเอง ส่วนราคาใบตอง ทางละ 3 บาท ทำให้ยังพออยู่ได้ โดยขนมเทียนที่ตนทำจะมี 2 แบบ คือไส้หวาน และไส้เค็ม ขายห่อละ 4-5 บาท แล้วแต่ช่วงเทศกาล
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าขาประจำ โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลเดือนสิบของชาวใต้จะขายดีเพราะขนมเทียนเป็นหนึ่งในขนมที่นิยมนำไปประกอบพิธี รวมถึงเทศกาล และประเพณีงานบุญต่างๆ ทั้งชาวไทย และชาวจีนก็นิยมนำขนมเทียนไปประกอบพิธีเช่นกัน
